นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานกรรมการบริหาร บมจ.ไทยยูเนี่ยน โฟรเซ่น โปรดักส์(TUF) ในฐานะผู้ผลิตและส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งและบรรจุกระป๋องรายใหญ่ของไทย แนะภาครัฐควรเร่งเจรจาข้อตกลงเขตการค้าเสรี(FTA) กับสหภาพยุโรป(EU) เพื่อลดภาษีนำเข้าปลาทูน่ากระป๋องที่ EU เรียกเก็บจากไทยให้เหลือเพียง 12% จากปัจจุบันที่เรียกเก็บสูงถึง 24%
ภาคเอกชนเชื่อว่าการเจรจาดังกล่าวจะทำให้การแข่งขันของไทยใน EU ดีขึ้น โดยเฉพาะการแข่งขันกับคู่แข่งที่เป็นประเทศในอาณานิคมของ EU ทั้งกลุ่มแอนเดรียน (โบลิเวีย โคลัมเบีย เอกวาดอร์ เปรู และเวเนซูเอลา) และกลุ่ม ACP(กลุ่มประเทศแอฟริกา แคริเบียน และแปซิฟิก)ที่ EU ไม่เก็บภาษีนำเข้าเลย
"แม้ปัจจุบันเราแข่งขันใน EU ได้ แต่ยอมรับว่าภาษีที่สูง เราทำตลาดได้ยากกว่าปกติ จึงอยากให้ภาครัฐเร่งเจรจาทำ FTA กับ EU และขอให้ช่วยเจรจาเรื่องลดภาษีตรงนี้ หากทำได้จะทำให้การส่งออกไป EU เติบโตได้อีกหลายเท่าตัว"นายธีรพงศ์ ระบุ
สำหรับการส่งออกอาหารทะเลแช่แข็งและบรรจุกระป๋องไปประเทศที่ไทยทำ FTA พบว่า สินค้าของ TUF ส่งออกได้เพิ่มขึ้นทั้งในตลาดญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และนิวซีแลนด์ แม้ว่าการส่งออกสินค้าในกลุ่มนี้ในภาพรวมจะชะลอตัวลง พร้อมต้องการให้ภาครัฐช่วยดูแลกรณีที่ประเทศคู่ค้าใช้มาตรการกีดกันทางการค้าที่มิใช่ภาษี(NTB) ซึ่งอาจเป็นการกีดกันทางการค้าอีกรูปแบบหนึ่งที่ภาครัฐจะต้องเข้าไปจัดการ
นายธีรพงศ์ ยังเสนอให้รัฐบางช่วยเจรจาเปิดตลาดปลาซาร์ดีนกระป๋อง และปลาแมคคอเรลกระป๋อง เพราะเป็นสินค้าที่มีอนาคต และปัจจุบันภาษีนำเข้าของประเทศต่างๆ ยังคงเรียกเก็บในอัตราที่สูง