ซีอีโอซันทรัสต์คาดแบงก์สหรัฐขาดทุนจากการปล่อยกู้มากขึ้น ขณะตลาดอสังหาฯยังอ่วมถึงปีหน้า

ซัน ทรัสต์ แบงก์ อิงค์ ผู้ปล่อยกู้รายใหญ่สุดในรัฐจอร์เจียระบุ สถาบันการเงินของสหรัฐอาจรายงานตัวเลขขาดทุนจากธุรกิจสินเชื่อมากขึ้น ในขณะที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงเผชิญอุปสรรคไปจนถึงปีหน้า

เจมส์ เวลล์ส ซีอีโอของทรัสต์แบงก์เปิดเผยผ่านทางบลูมเบิร์กว่า ธุรกิจธนาคารยังอยู่ห่างไกลจากคำว่าฟื้นตัว โดยเฉพาะในแผนกสินเชื่อที่ยังวนเวียนอยู่ในวัฎจักรที่เลวร้าย ซึ่งทำให้เราไม่สามารถตั้งความหวังว่า สถานการณ์ในภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวจะฟื้นตัวได้ในเร็วๆนี้

โดยซันทรัสต์ เปิดเผยตัวเลขขาดทุนติดต่อกัน 3 ไตรมาส ซึ่งส่วนใหญ่เป็นผลจากยอดเงินกู้ที่เพิ่มขึ้นในหลักทรัพย์ภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ 1.63 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ยอดเงินกู้ในภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างอยู่ที่ 8.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเจ้าหน้าที่กำกับดูแลได้ยุบธนาคาร 18 แห่งของรัฐจอร์เจียในปีนี้ ขณะที่อัตราว่างงานในรัฐดังกล่าวพุ่งสูงกว่าอัตราเฉลี่ยในสหรัฐและเป็นรัฐที่มีอัตราการยึดบ้านหลุดจำนองสูงสุดเป็นอันดับที่ 6 ในเดือนก.ค.ที่ผ่านมา

เวลล์สกล่าวว่า ความวิตกกังวลต่อมูลค่าในตลาดอสังหาริมทรัพย์ที่ลดลงยังคงเป็นปัญหาใหญ่ แม้ว่าเศรษฐกิจจะเริ่มส่งสัญญาณการฟื้นตัวขึ้นมาบ้างแล้ว แต่ปัจจัยแวดล้อมในตลาดอสังหาริมทรัพย์จะยังคงซบเซาไปจนถึงปีหน้า

ทั้งนี้ ซันทรัสต์มีตัวเลขเงินกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์ 1.59 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ วันที่ 30 มิ.ย. หรือคิดเป็น 13% ของเงินกู้มูลค่า 1.228 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ เวลล์สกล่าวว่า ซันทรัสต์อาจดำเนินการซื้อคืนหุ้นบุริมสิทธิ์ 4.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐที่จำหน่ายผ่านทางโครงการบรรเทาสินทรัพย์ด้อยคุณภาพ (TARP) ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ขณะที่เมื่อเดือนที่แล้วซันทรัสต์ได้อัดฉีดเงินทุน 2.3 พันล้านดอลลาร์เข้าสู่ระบบ หลังจากที่เจ้าหน้าที่กำกับดูแลของสหรัฐแนะให้ธนาคารอัดฉีดเงินเพิ่มอีก 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในกรณีที่สถานการณ์ทางเศรษฐกิจเลวร้ายลง