ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐ เสนอชื่อนายเบน เบอร์นันเก้ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดเป็นสมัยที่ 2 โดยโอบามาออกแถลงการณ์ที่รัฐแมสซาชูเสตส์ว่า "เบอร์นันเก้รับมือกับวิกฤตการณ์ในระบบการเงินด้วยความสุขุมรอบคอบและมีสติปัญญา เขาคิดและดำเนินการแบบ 'นอกกรอบ' โดยไม่พันธนาการตัวเองไว้กับระบบเก่าๆ จึงทำให้สหรัฐอเมริการอดพ้นจากวิกฤตการณ์รุนแรง"
คณะทำงานของโอบามาจะยื่นเสนอชื่อเบอร์นันเก้เพื่อให้วุฒิสภาสหรัฐลงมติรับรอง และจากนั้นต้องลงนามรับรองโดยนายคริสโตเฟอร์ ด็อด หัวหน้าคณะกรรมาธิการด้านการธนาคารแห่งวุฒิสภาสหรัฐ โดยวาระการดำรงตำแหน่งของเบอร์นันเก้จะหมดลงในวันที่ 1 ม.ค.ปีหน้า
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่มองว่า เบอร์นันเก้จะต้องเผชิญกับคำถามมากมายจากวุฒิสภา โดยเฉพาะนายด็อดที่ระบุว่า เฟดรับมือกับจำนวนบ้านถูกยึดที่พุ่งขึ้นอย่างรุนแรงช้าเกินไป และไม่ได้ปกป้องสิทธิประโยชน์ของผู้บริโภคในกรณีที่เฟดยื่นมือช่วยเหลือสถาบันการเงินหลายราย รวมถึง บริษัทอเมริกัน อินเตอร์เนชันแนล กรุ๊ป และวาณิชธนกิจแบร์ สเติร์นส์
หลังจากรับทราบแถลงการณ์ที่โอบามาเสนอชื่อตนเองให้เข้ารับตำแหน่งประธานเฟดอีกสมัยแล้ว เบอร์นันเก้ก็ให้คำมั่นสัญญาว่าจะทำงานต่อไปให้ดีที่สุด โดยจะร่วมมือเคียงบ่าเคียงไหล่กับคณะกรรมการกำหนดนโยบายของเฟด, สภาคองเกรส และคณะทำงานของโอบามา เพื่อสร้างรากฐานเศรษฐกิจให้แข็งแรง
เบอร์นันเก้ ซึ่งมีชื่อเต็มว่า เบน ชาโลม เบอร์นันเก้ จบการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2518 จากมหาวิทยาลัยฮาร์เวิร์ด และระดับปริญญาเอกสาขาเศรษฐศาสตร์ในปี 2522 จากสถาบันเทคโนโลยีแมสซาชูเสตส์ (เอ็มไอที) ได้รับการเสนอชื่อจากอดีตประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู บุช ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่อจากนายอลัน กรีนสแปนในปีพ.ศ.2549 โดยก่อนที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นประธานเฟดเมื่อวันที่ 1 ก.พ.2549 นั้น เบอร์นันเก้เคยดำรงตำแหน่งประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจของประธานาธิบดีสหรัฐระหว่างเดือนมิ.ย.2548 ถึงเดือนม.ค.2549
นอกจากนี้ เบอร์นันเก้เคยเป็นอาจารย์ประจำภาควิชาเศรษฐศาสตร์และกิจการสาธารณะที่มหาวิทยาลัยพรินซ์ตันในช่วงปี 2528-2545 และเคยเป็นอาจารย์ที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก และ เอ็มไอที
ริชาร์ด เบอร์เนอร์ หัวหน้านักวิเคราะห์จากมอร์แกน สแตนลีย์ กล่าวว่า การที่โอบามาตัดสินใจเลือกเบอร์นันเก้ให้ดำรงตำแหน่งประธานเฟดต่ออีกสมัยก็เพราะต้องการรักษาทีมงานที่มีส่วนสำคัญในการรับมือกับวิกฤตการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งทีมงานดังกล่าวรวมถึงนายทิโมธี ไกธ์เนอร์ รมว.คลัง, นายราห์ม เอ็มมานูเอล หัวหน้าคณะทำงาน และนายลอว์เรนซ์ ซัมเมอร์ส ประธานสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจ
ด้านนายฌอง-คล้อด ทริเชต์ ประธานธนาคารกลางยุโรป ได้แสดงท่าทีขานรับการเสนอชื่อเบอร์นันเก้ โดยกล่าวว่า "อีซีบีและเบอร์นันเก้มีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกัน และทำงานร่วมกันมาเป็นอย่างดีในช่วงที่เศรษฐกิจโลกเผชิญกันวิกฤตการณ์"
บลูมเบิร์กรายงานว่า ข่าวการเสนอชื่อโอบามาเป็นประธานเฟดสมัยที่ 2 เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยหนุนดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้