โตโยต้า มอเตอร์ เตรียมปิดสายการประกอบรถยนต์แห่งหนึ่งลง หลังจากที่ยอดขายรถในประเทศร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 30 ปี โดยโตโยต้าจะลดการผลิตลงประมาณ 220,000 คันที่โรงงานทาคาโอกะในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2553 จนถึงช่วงครึ่งหลังของปี 2554 หลังจากที่ได้ลดการผลิตภายในประเทศลงไปแล้ว 49% จนถึงเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ความต้องการซื้อรถร่วงลงหลังจากที่เศรษฐกิจโลกถดถอย ส่งผลให้เจนเนอรัล มอเตอร์ส และไครสเลอร์ ล้มละลาย โตโยต้าเองซึ่งเป็นบริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่สุดในโลกได้คาดการณ์ว่า จะขาดทุน 4.50 แสนล้านเยน หรือ 4.8 พันล้านดอลลาร์ในปีงบประมาณที่สิ้นสุดในเดือนมี.ค.ปีหน้า
ยูกิ ซากุราอิ ซีอีโอของฟูโกกุ แคปิตอล เมเนจเมนท์ กล่าวว่า โตโยต้าต้องการลดค่าใช้จ่ายต่างๆลงมาก บริษัทจำเป็นต้องหยุดการผลิตรถยนต์รุ่นที่ไม่สามารถทำกำไรและเป็นที่นิยม
บลูมเบิร์กรายงานว่า นิสสัน มอเตอร์ บริษัทรถรายใหญ่อันดับ 3 ของญี่ปุ่นก็คาดการณ์ว่า จะขาดทุนต่อเนื่อง 1.70 แสนล้านเยนในปีงบประมาณปัจจุบัน ส่วนฮอนด้า มอเตอร์ ก็คาดว่า จะสามารถทำกำไรได้ 5.5 หมื่นล้านเยน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากธุรกิจมอเตอร์ไซค์
ริริโก ทาเคอูชิ โฆษกโตโยต้า กล่าวต่อไปว่า ความสามารถในการผลิตทั่วโลกประมาณ 10 ล้านคัน ผลผลิตทั่วโลกอาจจะอยู่ที่ 6.68 ล้านคันในปีงบประมาณปัจจุบัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงไปจากระดับปีที่แล้วที่ 9.24 ล้านคัน
นสพ.นิกเกอิรายงานว่า บริษัทจะลดความสามารถในการผลิตทั่วโลกลง 1 ล้านคันในปีงบประมาณปัจจุบัน
ทั้งนี้ โตโยต้ามีส่วนแบ่งตลาดในประเทศประมาณ 40% ในปีงบประมาณ 2551 ไม่นับรวมแบรนด์เล็กซัส
ส่วนหนึ่งของมาตรการฉุกเฉินที่บริษัทจะกลับมาทำกำไรอีกนั้น โตโยต้าตั้งเป้าที่จะลดต้นทุนที่เกี่ยวกับการผลิตลงให้ได้ 3.60 แสนล้านเยน และค่าใช้จ่ายคงที่ 4.90 แสนล้านเยนในปีงบประมาณปัจจุบัน