นายกรณ์ จาติกวนิช รมว.คลัง เปิดเผยว่า ช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 6 แห่ง สามารถปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบไปแล้ว 622,000 ล้านบาท คิดเป็น 99.5% จากเป้าหมายเดิมที่ตั้งไว้ที่ 625,500 ล้านบาท จึงได้เพิ่มเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อให้อีก 361,500 ล้านบาท ซึ่งจึงทำให้ในปี 52 สถาบันการเงินเฉพาะกิจจะสามารถปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบได้ถึง 927,000 ล้านบาท
นายกรณ์ ระบุว่า หากสถาบันการเงินดังกล่าวจะสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ จะช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศปีนี้ขยายตัวได้เพิ่มขึ้น 0.5-0.9%
ทั้งนี้ พบว่าสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐหลายแห่งสามารถปล่อยสินเชื่อได้เกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ ขณะที่รัฐบาลต้องการให้สถาบันการเงินเหล่านี้ปล่อยสินเชื่อเข้าสู่ระบบเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศ
"หากแบงก์เฉพาะกิจของรัฐสามารถปล่อยสินเชื่อได้ตามเป้าหมาย ถ้าคิดเป็นอย่างน้อยสามารถเบิกจ่ายได้ภายในสิ้นปีนี้คิดเป็น 70% ของเป้าหมาย ก็จะช่วยให้จีดีพีโตเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 0.5%" รมว.คลัง กล่าว
การเพิ่มเป้าหมายการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว จะทำให้ประชาชนและผู้ประกอบการเข้าถึงสินเชื่อได้เพิ่มขึ้น 730,000 ราย แยกเป็นเกษตรกร 175,000 ราย, ประชาชนและผู้ประกอบการรายย่อย 550,000 ราย ผู้ประกอบการ SMEs และท่องเที่ยว 3,000 ราย และผู้ส่งออกอีก 1,500 ราย
สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ 6 แห่ง ประกอบด้วย ธนาคารออมสิน, ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธกส.), ธนาคารอาคารสงเคราะห์(ธอส.), ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม, ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(Exim Bank) และธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย