แอร์ไชน่า หนึ่งในสามสายการบินหลักของรัฐบาลจีน รายงานผลกำไรช่วงครึ่งปีแรกเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากปีก่อน เนื่องจากราคาเชื้อเพลิงที่ลดลงและการลงทุนในสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิงได้ช่วยชดเชยดีมานด์ในเส้นทางระหว่างประเทศที่ซบเซา
แอร์ไชน่าเผยกำไรเดือนม.ค.-มิ.ย.อยู่ที่ 2.88 พันล้านหยวน (422 ล้านดอลลาร์) เทียบกับช่วง 6 เดือนแรกของปี 2551 ซึ่งมีกำไรอยู่ที่ 1.13 พันล้านหยวน (165 ล้านดอลลาร์)
สำหรับค่าใช้จ่ายในการซื้อเชื้อเพลิงลดลง 42.5% จากปีก่อน เพราะการลดลงของราคาน้ำมันดิบในต่างประเทศ นอกจากนี้สายการบินยังได้กำไร 1.45 พันล้านหยวน (212 ล้านดอลลาร์) จากการเก็งกำไรในสัญญาซื้อขายเชื้อเพลิง
ในปีงบประมาณ 2551 แอร์ไชน่ารายงานผลประกอบการขาดทุน 9.3 พันล้านหยวน (1.3 พันล้านดอลลาร์) ซึ่งเป็นผลมาจากค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่ทะยานขึ้นและการขาดทุนจากการเก็งกำไรสัญญาซื้อขายน้ำมัน
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า แอร์ไชน่า ซึ่งมีฐานการดำเนินงานอยู่ในปักกิ่ง ถือเป็นสายการบินที่แข็งแกร่งที่สุดของจีน แต่ถึงกระนั้นแอร์ไชน่าก็ไม่ต่างจากสายการบินอื่นที่ต้องดิ้นรนพยุงกิจการท่ามกลางค่าใช้จ่ายด้านเชื้อเพลิงที่สูงขึ้นและดีมานด์การเดินทางที่อ่อนแอลงตามสภาพเศรษฐกิจโลกที่ดำเนินอยู่ในเวลานี้
โดยมูลค่าจากการขายในช่วงครึ่งแรกของปี 2552 ลดลง 9.6% จากปีก่อนมาอยู่ที่ 2.31 หมื่นล้านหยวน (3.4 พันล้านดอลลาร์) ท่ามกลางอุปสงค์การเดินทางของผู้โดยสารระหว่างประเทศและบริการขนส่งสินค้าทางอากาศที่อ่อนแอ โดยรายได้จากการเดินทางลดลง 13% แตะ 3.17 พันล้านหยวน (464 ล้านดอลลาร์)
ทั้งนี้ รัฐบาลจีนได้ฉีดเงินหลายพันล้านหยวนให้แก่สายการบินต่างๆ และยกเว้นภาษีจากการเก็บค่าธรรมเนียมน้ำมันเพื่อช่วยสายการบินฝ่าฟันวิกฤตเศรษฐกิจ