ภาวะตลาดเงินนิวยอร์ก: ดอลล์พุ่งเทียบยูโร จากข่าวรบ.จีนเล็งควบคุมภาคอุตสาหกรรม

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 27, 2009 07:48 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินยูโรและเงินปอนด์ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (26 ส.ค.) หลังจากมีข่าวว่ารัฐบาลจีนจะคุมเข้มการลงทุนและควบคุมภาวะ overcapacity ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและหันเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง ส่วนค่าเงินยูโรอ่อนตัวลงแม้เยอรมนีรายงานดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้นก็ตาม

บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.31% เมื่อเทียบกับยูโรที่ระดับ 1.4251 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับ 1.4295 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.56% เมื่อเทียบเงินปอนด์ที่ 1.6244 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6335 ปอนด์/ดอลลาร์

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐพุ่งขึ้น 0.62% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ระดับ 1.0677 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0611 ฟรังค์/ดอลลาร์ และอ่อนตัวลง 0.02% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 94.150 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 94.170 เยน/ดอลลาร์

ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียร่วงลง 0.79% แตะที่ 0.8277 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8343 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์ดิ่งลง 0.51% แตะที่ 0.6806 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6841 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์

ค่าเงินดอลลาร์ทะยานขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากสำนักข่าวซินหัวรายงานว่ารัฐบาลจีนจะคุมเข้มการลงทุนและควบคุมภาวะ overcapacity ในภาคอุตสาหกรรม ซึ่งข่าวดังกล่าวทำให้นักลงทุนวิตกกังวลเรื่องแนวโน้มเศรษฐกิจและหันเข้าถือครองสกุลเงินดอลลาร์เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยง

นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐทะยานขึ้นแม้ทางการสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่สดใส รวมถึงยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.ที่พุ่งขึ้น 9.6% แตะระดับ 433,000 ยูนิต ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 เดือน และยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 4.9% ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3%

ส่วนค่าเงินยูโรร่วงลงแม้สถาบัน Ifo เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจของเยอรมนีในเดือนส.ค.ดีดตัวขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 90.5 จุด จากระดับ 87.4 จุดในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวขึ้นเป็นเดือนที่ 5 แล้ว หลังจากที่เศรษฐกิจเยอรมนีได้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยขั้นรุนแรงนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นต้นมา ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า ดัชนีความเชื่อมั่นจะอยู่ที่ระดับ 89 จุด

นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในสัปดาห์นี้ โดยวันวันพฤหัสบดี กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ขั้นต้นประจำไตรมาส 2 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ ส่วนวันศุกร์กระทรวงพาณิชย์จะเปิดเผยรายได้ส่วนบุคคลเดือนก.ค. และมหาวิทยาลัยมิชิแกนจะเปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นสุดท้ายเดือนส.ค.


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ