คณะกรรมการสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ขยายตัวขึ้น 1.5% นับเป็นตัวเลขที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งตัวเลขดังกล่าวช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของธนาคารกลางฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ยุติการลดอัตราดอกเบี้ย
ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็รคาดว่า GDP ของฟิลิปปินส์จะขยายตัว 0.5% โดยในไตรมาส 1 เศรษฐกิจฟิลิปปินส์ขยายตัว 0.4% ซึ่งเป็นสถิติที่อ่อนตัวลงมากที่สุด
ประธานาธิบดีกลอเรีย อาร์โรโย่ ของฟิลิปปินส์ได้เพิ่มงบประมาณการใช้จ่ายและตั้งเป้ายอดขาดดุลงบประมาณปีนี้สูงเป็นประวัติการณ์ เพื่อปกป้องเศรษฐกิจจากภาวะวิกฤตเศรษฐกิจโลกนับตั้งแต่ Great Depression ขณะที่ธนาคารกลางฟิลิปปินส์ก็คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์ที่ 4% เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากที่ลดดอกเบี้ยลงไป 2% จากช่วงกลางเดือนธ.ค.-ก.ค.
โจนาทาน ราเวลาส นักวิเคราะห์ของบังโค เดอ โอโร ยูนิแบงค์ กล่าวว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลนั้นประสบความสำเร็จในการป้องกันไม่ให้เศรษฐกิจชะลอตัวลง และควรจะมีการใช้มาตรการดังกล่าวต่อไปเพื่อสนับสนุนให้เกิดการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน
เอสเอ็ม อินเวสเมนท์ ซึ่งมีสินทรัพย์ทั้งในธนาคารรายใหญ่สุดของฟิลิปปินส์และยังเป็นเจ้าของห้างสรรพสินค้ารายใหญ่สุดของฟิลิปปินส์ เผยกำไรไตรมาส 2 พุ่งขึ้น 16% เนื่องจากประชาชนได้ใช้จ่ายเงินมากขึ้นที่ซูเปอร์มาร์เก็ตและห้างสรรพสินค้า
จอร์จ เมนดิโอลา ประธานสมาคมผู้ค้าปลีกฟิลิปปินส์ กล่าวว่า ช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดได้ผ่านพ้นไปแล้วหลังจากที่กิจการกลุ่มผู้ค้าปลีกและอุตสาหกรรมของประเทศขยายตัวขึ้นในระดับหนึ่งแล้วในปีนี้
ทั้งนี้ รัฐบาลฟิลิปปินส์คาดว่า การขยายตัวทางเศรษฐกิจจะดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ เนื่องจากภาวะการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกคลี่คลายลง และการใช้จ่ายงบประมาณของรัฐบาลเริ่มส่งผลเป็นรูปธรรมจนช่วยให้ฟิลิปปินส์หลุดพ้นจากภาวะถดถอยได้ในปีนี้