ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแขวงแมนฮัทตันเพื่อขอเลื่อนเวลาการเปิดเผยข้อมูลของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการปล่อยกู้ฉุกเฉินในช่วงที่วิกฤติสินเชื่อโลกเริ่มทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากผู้พิพากษาลอเรตตา เพรสกา หัวหน้าคณะผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางในแมนฮัตตันระบุว่า เฟดต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้นักลงทุนและสาธารณชนทั่วไปรับทราบข้อมูลของบริษัทที่เข้าร่วมโครงการดังกล่าวตามกฎหมายสิทธิเสรีภาพในการรับรู้ข้อมูลข่าวสารของสหรัฐ (FOIA)
คดีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อบลูมเบิร์ก นิวส์ ยื่นคำร้องต่อศาลภายใต้กฎหมาย FOIA ในกรณีที่เฟดใช้มาตรการเพื่อพยุงระบบการเงินในปีพ.ศ.2550 และต้นปีพ.ศ.2551 ซึ่งรวมถึงการขยายโครงการปล่อยกู้ และการขายบริษัทแบร์ สเติร์นส์ ให้กับบริษัทเจพีมอร์แกน เชส แอนด์ โค ซึ่งหลังจากเฟดปฏิเสธคำร้องนี้ บลูมเบิร์กได้ยื่นฟ้องต่อศาลเพื่อบังคับให้มีการเปิดเผยข้อมูล
ทั้งนี้ ผู้พิพากษาเพรสการะบุว่า เฟดประสบความล้มเหลวในการพิสูจน์ให้เห็นว่าการเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวจะส่งผลให้ลูกหนี้ของเฟดได้รับความเสียหายด้านประสิทธิภาพทางการแข่งขัน และการเปิดเผยข้อมูลจะทำให้ลูกหนี้เสื่อมเสียชื่อเสียงในฐานะผู้ใช้ประโยชน์จากโครงการปล่อยกู้ของเฟด พร้อมกล่าวว่า กฎหมาย FOIA ระบุว่าหน่วยงานของรัฐบาลกลางจำเป็นต้องเปิดเผย เอกสารของรัฐบาลต่อสาธารณชน แต่ก็มีข้อยกเว้นหลายประการภายใต้กฎหมาย ดังนั้นศาลจึงมีคำพิพากษาให้เฟดเปิดเผยข้อมูลดังกล่าวให้สาธารณชนได้รับทราบ
อย่างไรก็ตาม อีวอนเน มิซูซาวา ที่ปรึกษาอาวุโสของเฟดกล่าวว่า เฟดและธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐจะได้รับผลกระทบอย่างหนักหากเฟดเปิดเผยรายเอียดต่างๆเกี่ยวกับโครงการปล่อยกู้ฉุกเฉินให้สาธารณชนรับทราบ และรับหน้าที่ยื่นอุทธรณ์ต่อศาลแขวงแมนฮัทตันขอเลื่อนระยะเวลาการเปิดเผยรายละเอียดดังกล่าว