โตโยต้า มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่สุดในโลกได้รับประโยชน์มากที่สุดจากโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ของรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลให้บริษัททำยอดขายรถใหม่ได้มากที่สุด
บลูมเบิร์กรายงานว่า กระทรวงคมนาคมสหรัฐเปิดเผยว่า โตโยต้าสามารถทำยอดขายได้ 19% ของยอดขายรถเกือบ 700,000 คันภายใต้โครงการดังกล่าว
โครงการดังกล่าวช่วยฟื้นดีมานด์ในอุตสาหกรรมรถที่ดิ่งลงอย่างหนักและสามารถทำให้เจนเนอรัล มอเตอร์ส (จีเอ็ม) ฟอร์ด มอเตอร์ และไครสเลอร์ กรุ๊ป ต้องเพิ่มแผนการผลิตของตนเอง ส่วนโตโยต้า ซึ่งคาดว่าบริษัทจะขาดทุนติดต่อกันเป็นปีที่ 2 นั้น อาจจะทบทวนแนวโน้มรายได้ของบริษัทอีกครั้งเมื่อพิจารณาจากยอดขายรถที่เพิ่มขึ้นดังกล่าว
โยชิฮิโร โอคุมูระ ผู้บริหารของ แอสเส็ท แมเนจเมนท์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา โตโยต้ายังไม่ได้นับรวมผลเชิงบวกที่ได้รับจากโครงการรถเก่าแลกรถใหม่เข้าในการคาดการณ์ของบริษัท ซึ่งอาจจะทำให้ผลประกอบการของบริษัทสูงขึ้นก็เป็นได้ในปีนี้
ก่อนหน้านี้ โตโยต้าคาดการณ์ว่า ในปีงบการเงิน 2552 จะขาดทุน 4.50 แสนล้านเยน หรือ 4.8 พันล้านดอลลาร์ เมื่อเปรียบเทียบกับการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ที่ขาดทุน 5.50 แสนล้านเยน และคาดว่ายอดขายรถในอเมริกาเหนือในปีงบปัจจุบัน จะอ่อนตัวลง 16% จากระดับปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 1.86 ล้านคัน
ทั้งนี้ ยอดขายรถจากค่ายจีเอ็ม ฟอร์ด และไครสเลอร์ คิดเป็นสัดส่วนรวมกันประมาณ 39% ของยอดขายรถภายใต้โครงการรถเก่าแลกรถใหม่ เมื่อเปรียบเทียบกับส่วนแบ่งตลาดรวมในสหรัฐปีนี้ของทั้ง 3 บริษัทที่ 45% และเทียบกับยอดขายรวมของโตโยต้า ฮอนด้า และนิสสันที่ 41%