โกลด์แมน แซคส์ ชี้จีนคุมเข้มอุตฯเหล็กสะท้อนรบ.เชื่อมั่นศก.แกร่งพอรับมือภาวะกำลังการผลิตเกิน

ข่าวต่างประเทศ Thursday August 27, 2009 14:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

โกลแมน แซคส์ เปิดเผยว่า การที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่า ของจีนวางแผนใช้มาตรการควบคุมอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กและซีเมนต์นั้น สะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลจีนมีความเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจจีนมีความแข็งแกร่งเพียงพอที่จะรับมือกับภาวะกำลังการผลิตส่วนเกิน (overcapacity) ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ธนาคารพาณิชย์จีนปล่อยเงินกู้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้

"ในเบื้องต้นนั้นวางแผนดังกล่าวถือเป็นข่าวในด้านบวก เพราะสะท้อนให้เห็นว่าคณะกรรมการกำกับนโยบายของจีนต้องการควบคุมการลงทุนไม่ให้ร้อนแรงเกินไป และยังสะท้อนให้เห็นว่ารัฐบาลจีนเชื่อมั่นว่าจีนมีความพร้อมและแข็งแกร่งมากพอที่จะรับมือกับวิกฤตการณ์ในภาคอุตสาหกรรมได้" เฮเลน เฉียว นักวิเคราะห์ของโกลด์แมน แซคส์กล่าว

สภาแห่งรัฐของจีนออกแถลงการณ์ว่า จีนกำลังศึกษามาตรการควบคุมภาวะกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อุตสาหกรรมเกิดใหม่ รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตพลังงานลม โดยเตือนว่าภาวะกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรมและโครงการซ้ำซ้อนในภาคอุตสาหกรรมกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจีน นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังวางแผนควบคุมการขยายตัวด้านการลงทุนซึ่งเป็นผลมาจากการอัตราการปล่อยสินเชื่อที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้

ตัวเลขการลงทุนในสินทรัพย์ถาวรของจีนพุ่งขึ้น 33.5% ในช่วงครึ่งปีแรก เนื่องจากธนาคารพาณิชย์ของจีนปล่อยกู้มากที่สุดเป็นประวัติการณ์ถึง 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ ขณะที่ปริมาณการผลิตเหล็กในเดือนก.ค.พุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่งผลให้ดัชนีราคาเหล็กของจีนดิ่งลง 12% ในรอบ 2 สัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ส.ค.

สมาคมเหล็กโลกเปิดเผยว่า จีนเป็นผู้ผลิตเหล็กรายใหญ่สุดของโลก โดยปีที่แล้วจีนสามารถผลิตเหล็กได้มากกว่าญี่ปุ่น สหรัฐ รัสเซีย และอินเดีย ซึ่งเป็น 4 ผู้ผลิตเหล็กยักษ์ใหญ่ของโลก และในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้ จีนผลิตเหล็กได้เกือบครึ่งหนึ่งของผลผลิตเหล็กทั่วโลก

นอกจากนี้ จีนยังสามารถผลิตซีเมนต์ได้ถึงครึ่งหนึ่งของผลผลิตซีเมนต์ทั่วโลกในปีที่แล้ว ทำให้จีนก้าวขึ้นเป็นผู้ผลิตซีเมนต์รายใหญ่ของโลกแซงหน้าคู่แข่งอย่างอินเดีย และจีนยังเป็นผู้ผลิตถ่านหินและผู้ใช้รายใหญ่สุดของโลก โดยเมื่อปีที่แล้วจีนใช้ถ่านหินในสัดส่วน 43% ของดีมานด์ทั่วโลก บลูมเบิร์กรายงาน


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ