กระทรวงพลังงานสหรัฐรายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ส.ค.เพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล แตะระดับ 343.8 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะร่วงลง 1.1 ล้านบาร์เรล
-- กระทรวงพาณิชย์รายงานว่า ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนโดยรวมเดือนก.ค.พุ่งขึ้น 4.9% ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 3 เดือน และมากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 3% เนื่องจากภาคภาคการผลิตของสหรัฐฟื้นตัวขึ้นจากภาวะหดตัวรุนแรง
-- กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ยอดขายบ้านใหม่เดือนก.ค.พุ่งขึ้น 9.6% แตะระดับ 433,000 ยูนิต ซึ่งเป็นสถิติที่เพิ่มขึ้นติดต่อกัน 4 เดือน และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะอยู่ที่ 390,000 ยูนิต ซึ่งเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่าตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐฟื้นตัวขึ้นแล้วหลังจากได้รับผลกระทบอย่างหนักจากภาวะเศรษฐกิจถดถอย โดยปัจจัยที่ทำให้ยอดขายบ้านพุ่งขึ้นเหนือความคาดหมายมาจากราคาบ้านที่ปรับตัวลดลง
-- สภาแห่งรัฐของจีนออกแถลงการณ์ว่า จีนกำลังศึกษามาตรการควบคุมภาวะกำลังการผลิตส่วนเกิน (overcapacity) ในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ อุตสาหกรรมเกิดใหม่ รวมถึงอุตสาหกรรมการผลิตพลังงานลม โดยเตือนว่าภาวะกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรมและโครงการซ้ำซ้อนในภาคอุตสาหกรรมกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจีน นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังวางแผนควบคุมการขยายตัวด้านการลงทุนซึ่งเป็นผลมาจากการอัตราการปล่อยสินเชื่อที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
-- คณะกรรมการสถิติแห่งชาติฟิลิปปินส์เปิดเผยว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 2 ขยายตัวขึ้น 1.5% นับเป็นตัวเลขที่ชะลอตัวลงมากที่สุดในรอบ 10 ปี ซึ่งตัวเลขดังกล่าวช่วยสนับสนุนการตัดสินใจของธนาคารกลางฟิลิปปินส์เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่ยุติการลดอัตราดอกเบี้ย
-- พรรคฝ่ายค้านญี่ปุ่นให้คำมั่นว่าจะลดงบประมาณด้านการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานหากชนะการเลือกตั้งในวันที่ 30 สิงหาคมนี้ แม้ว่านโยบายดังกล่าวอาจทำได้ยาก เนื่องจากการก่อสร้างเป็นแหล่งสร้างงานและแหล่งระดมทุนทางการเมืองมากเป็นอันดับ 5 ของประเทศ
-- ประธานาธิบดีหม่า อิง-จิว ของไต้หวัน อนุญาตให้องค์ดาไล ลามะ ผู้นำจิตวิญญาณของทิเบต เดินทางเยือนไต้หวันในสัปดาห์หน้าเพื่อเยี่ยมเยียนและให้กำลังใจผู้ประสบภัยไต้ฝุ่นมรกต ตามคำเชิญของนายกเทศมนตรีและเจ้าหน้าที่ปกครองท้องถิ่นของไต้หวัน
-- โตโยต้า มอเตอร์ บริษัทผู้ผลิตรถรายใหญ่สุดในโลกได้รับประโยชน์มากที่สุดจากโครงการรถเก่าแลกรถใหม่ของรัฐบาลสหรัฐ ส่งผลให้บริษัททำยอดขายรถใหม่ได้มากที่สุด โดยกระทรวงคมนาคมสหรัฐเปิดเผยว่า โตโยต้าสามารถทำยอดขายได้ 19% ของยอดขายรถเกือบ 700,000 คันภายใต้โครงการดังกล่าว