อัตราว่างงานที่พุ่งสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ในเดือนก.ค.ของญี่ปุ่นกลายเป็นอีกประเด็นที่ส่งผลกระทบต่อรัฐบาลญี่ปุ่นภายใต้การนำของนายทาโร่ อาโสะ นายกรัฐมนตรีซึ่งจะต้องพบกับศึกเลือกตั้งทั่วไปในวันที่ 30 ส.ค.นี้ ขณะที่พรรคฝ่ายค้านได้วิจารณ์รัฐบาลที่แก้ปัญหาเศรษฐกิจได้ไม่ดีนัก
เท็ตสึโร่ ฟูกุยามะ หัวหน้าฝ่ายนโยบายของพรรคเดโมเครติค พาร์ตี ออฟ เจแปน (DPJ) กล่าวว่า แม้ว่าพรรครัฐบาลจะอ้างว่า เศรษฐกิจฟื้นตัวขึ้น แต่โครงสร้างทางเศรษฐกิจที่อ่อนตัวนั้นยังต้องพึ่งพาดีมานด์จากต่างประเทศที่ทรงตัว ดังนั้นจึงควรจะมีการพิจารณาใช้มาตรการทางเศรษฐกิจที่พึ่งพาดีมานด์ภายใปนระเทศตามที่พรรคได้เสนอไป
พรรคเสรีประชาธิปไตยของนายทาโร่ อาโสะ ยังคงมีคะแนนตามหลังพรรคดีพีเจ และสำนักข่าวเกียวโดคาดการณ์ว่า พรรคดีพีเจจะได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรครั้งนี้
นายทาเคโอะ คาวามูระ หัวหน้าเลขาธิการครม.ญี่ปุ่น กล่าวปกป้องรัฐบาลเรื่องการแก้ปัญหาเศรษฐกิจว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นเมื่อวัดจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศแล้ว ขยายตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ไตรมาสเมื่อไตรมาส 2 ที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี รัฐบาลยังคงมุ่งมั่นที่จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เพื่อป้องกันไม่ให้อัตราว่างงานร่วงลงมากไปกว่านี้
รัฐบาลญี่ปุ่นเปิดเผยตัวเลขอัตราว่างงานเดือนก.ค.ในวันนี้ว่า ดีดตัวขึ้นถึง 5.7% ซึ่งถือเป็นสถิติที่สูงเป็นประวัติการณ์นับตั้งแต่หลังสงครามโลกครั้งที่ 2 และสูงกว่าเดือนที่แล้วที่ 5.4%
ทาดาโยชิ อิชิดะ เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์ เปิดเผยว่า ตัวเลขทางเศรษฐกิจที่ได้มีการเปิดเผยในวันนี้ทำให้การออกมาชี้แจงของฝั่งรัฐบาลไม่เป็นผล เนื่องจากหากบริษัทขนาดใหญ่สามารถทำกำไรได้ ประชาชนก็จะต้องมีรายได้สูงขึ้นตามไปด้วย