สหรัฐสั่งปิดแบงค์อีก 3 แห่ง ส่งผลยอดรวมแบงค์ถูกปิดปีนี้เพิ่มเป็น 84 ราย

ข่าวต่างประเทศ Sunday August 30, 2009 06:30 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

บรรษัทประกันเงินฝากแห่งสหรัฐ (Federal Deposit Insurance Corp : FDIC) รายงานว่า ทางการสหรัฐสั่งปิดธนาคารพาณิชย์อีก 3 แห่งในประเทศ ส่งผลให้จำนวนธนาคารที่ถูกสั่งปิดในสหรัฐปีนี้พุ่งขึ้นเป็น 84 ราย และคาดว่าสถานการณ์ดังกล่าวจะส่งผลให้อัตราว่างงานในสหรัฐพุ่งขึ้นอีก

FDIC ระบุว่าธนาคารที่ถูกสั่งปิดล่าสุดได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจถดถอยและวิกฤตการณ์การเงินที่ส่งผลกระทบไปทั่วโลก โดยธนาคารทั้ง 3 แห่งได้แก่ แอฟฟินิตี้ แบงค์ ในรัฐแคลิฟอร์เนีย, แบรดฟอร์ด แบงค์ ในรัฐแมรีแลนด์ และเมนสตรีท แบงค์ ในรัฐมินเนโซตา โดยสินทรัพย์ 1.9 พันล้านดอลลาร์และเงินฝากมูลค่า 1.7 พันล้านดอลลาร์ของธนาคารทั้ง 3 แห่งจะถูกโอนถ่ายให้กับสถาบันการเงินแห่งใหม่ และส่งผลให้ต้นทุนการประกันเงินฝากของ FDIC เพิ่มขึ้นอีก 466 ล้านดอลลาร์

บลูมเบิร์กรายงานว่า จำนวนธนาคารที่ถูกสั่งปิดเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 17 ปี และคาดว่าจำนวนธนาคารที่ประสบปัญหาการเงินที่ระบุในบัญชีรายชื่อเฝ้าระวังของสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในปีนี้ สถานการณ์ดังกล่าวส่งผลให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับดูแลของสหรัฐเรียกร้องธนาคารพาณิชย์ให้พิจารณาระงับหรือลดการจ่ายเงินปันผลเพื่อรักษาฐานเงินทุน ขณะที่นางเชลา แบร์ ประธาน FDIC กล่าวว่า นับเป็นเรื่องไม่สมควรที่ธนาคาร ที่ไม่สามารถทำกำไรบางแห่งได้จ่ายเงินปันผลในปี 2008 และได้เรียกร้องธนาคารพาณิชย์ให้รักษาฐานะเงินทุนเอาไว้

รายงานล่าสุดระบุว่า FDIC วางแผนที่จะเปิดทางให้บริษัทกลุ่มไพรเวท อิควิตี้ เข้าซื้อธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐได้สะดวกขึ้น หลังจากจำนวนธนาคารที่ถูกสั่งปิดเพิ่มขึ้นรวดเร็วที่สุดในรอบ 17 ปี ทำให้ต้นทุนการรับประกันเงินฝากของ FDIC พุ่งขึ้นเป็น 2.1 หมื่นล้านดอลลาร์



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ