ญี่ปุ่นเตรียมควบคุมอัตราการนำเข้าธัญพืชซึ่งมีมูลค่าราว 59% ของยอดนำเข้าอาหารทั้งหมด พร้อมจัดสรรเงินช่วยเหลือเกษตรกรในประเทศภายใต้วงเงิน 1 ล้านล้านเยน (1.08 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ของรัฐบาลชุดใหม่
ญี่ปุ่น ซึ่งนำเข้าข้าวสาลีราว 60% และนำเข้าถั่วเหลือง 74% จากสหรัฐ อาจกระตุ้นอัตราการปลูกธัญพืชขึ้น 50% ในปี 2562 เมื่อเทียบกับระดับ 41% ในรอบปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค.
พรรคดีพีเจจะขึ้นบริหารประเทศเป็นครั้งแรกหลังชนะการเลือกตั้งเมื่อวานนี้ โดยทางพรรคได้ให้คำมั่นว่าจะจัดสรรเงินช่วยเหลือเกษตรในยามที่ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ และลดอัตราการนำเข้าธัญพืชด้วยการหันมาปลูกพืชดังกล่าวจากที่เคยพึ่งการนำเข้าธัญพืช 59% ในรอบปีที่สิ้นสุด ณ วันที่ 31 มี.ค. ซึ่งเป็นอัตราการนำเข้าสูงสุดในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้ว
บลูมเบิร์กรายงานว่า รัฐบาลญี่ปุ่นชุดใหม่ภายใต้การนำของพรรคดีพีเจจะพยายามกระตุ้นอุตสาหกรรมการเกษตรในญี่ปุ่นด้วยการจัดสรรเงินช่วยเหลือให้กับเกษตรกร ซึ่งนโยบายดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นการผลิตในประเทศ แม้ว่าเป้าหมายในการพึ่งพาตัวเองอาจยากที่จะบรรลุผลได้ในทันที
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นต้องการลดการพึ่งพาการนำเข้าธัญพืชจากต่างประเทศเพื่อป้องกันความผันผวนของราคาในตลาดโลกที่พุ่งสูงสุดเป็นประวัติการณ์เมื่อปีที่ผ่านมา และเพื่อเป็นการรับประกันเสถียรภาพด้านอาหารในระยะยาว โดยจะมีการจัดสรรเงินจำนวน 1 ล้านล้านเยนต่อปี ซึ่งจะเท่ากับยอดเงิน 40% ของงบประมาณทางการเกษตรในปีงบประมาณนี้