สมาคมลอจิสติกและการจัดซื้อของจีนรายงานในวันนี้ว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 54 จุด ในเดือนส.ค. หรือเพิ่มขึ้น 0.7% จากเดือนก.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวรวดเร็วที่สุดในรอบ 16 เดือน เนื่องจากเศรษฐกิจจีนขยายตัวอย่างต่อเนื่องหลังจากอัตราการปล่อยกู้ในช่วงครึ่งปีแรกพุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ ดัชนีที่เคลื่อนไหวเหนือระดับ 50% บ่งชี้ว่ามีการขยายตัวในภาคการผลิต แต่ดัชนีที่ต่ำกว่าระดับ 50 จุด บ่งชี้ถึงภาวะหดตัว
พอล คาเวย์ นักวิเคราะห์จากบริษัทหลักทรัพย์แมคควอรีในฮ่องกง กล่าวว่า ภาคการผลิตของจีนได้รับแรงหนุนจากการที่ธนาคารจีนปล่อยกู้มากสุดเป็นประวัติการณ์ในช่วงครึ่งปีแรก แต่สถานการณ์ดังกล่าวเริ่มทำให้รัฐบาลจีนหันมาควบคุมการปล่อยกู้ในภาคธนาคาร และวางแผนควบคุมภาคอุตสาหกรรมเพราะเกรงว่าจะเกิดภาวะกำลังการผลิตส่วนเกิน (overcapacity)
บลูมเบิร์กรายงานว่า จีนกำลังศึกษามาตรการควบคุมภาวะกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรมต่างๆ รวมถึงอุตสาหกรรมเกิดใหม่ อาทิต การผลิตพลังงานลม โดยเตือนว่าภาวะกำลังการผลิตส่วนเกินในภาคอุตสาหกรรมและโครงการซ้ำซ้อนในภาคอุตสาหกรรมกำลังส่งผลกระทบอย่างหนักต่อจีน นอกจากนี้ รัฐบาลจีนยังวางแผนควบคุมการขยายตัวด้านการลงทุนซึ่งเป็นผลมาจากการอัตราการปล่อยสินเชื่อที่พุ่งขึ้นสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้
นอกจากนี้ รัฐบาลจะเพิ่มการควบคุมอุตสาหกรรมถ่านหิน พลังงาน ซีเมนต์ และเหล็กกล้า พร้อมกล่าวว่าการควบคุมการขายหุ้นและพันธบัตรของบริษัทต่างๆในภาคอุตสาหกรรมจะช่วยเสริมสร้างอุตสาหกรรมให้แข็งแกร่งขึ้น ซึ่งมาตรการควบคุมดังกล่าวรวมถึงการคุมเข้มเรื่องการเข้าถึงตลาด การกำกับดูแลด้านสิ่งแวดล้อม และการควบคุมการใช้ที่ดินให้เข้มงวดมากขึ้น ขณะเดียวกันธนาคาพาณิชย์ที่ปล่อยเงินกู้ให้อุตสาหกรรมดังกล่าวก็จะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับนโยบายอุตสาหกรรมฉบับปัจจุบันอย่างเข้มงวดด้วยเช่นกัน