แปซิฟิก อินเวสต์เมนท์ แมเนจเมนท์ (พิมโค) ซึ่งเป็นบริษัทจัดการกองทุนพันธบัตรรายใหญ่สุดของโลก แนะนำนักลงทุนให้หลีกเลี่ยงการซื้อพันธบัตรที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง เนื่องจากอัตราการผิดนัดชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้แก่ผู้ถือพันธบัตร (default rate) มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งภาวะเช่นนี้เปรียบเสมือน "หลุมดำ" ในตลาดพันธบัตร
"นักลงทุนควรระมัดระวังการลงทุนในพันธบัตรที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง และควรหลีกเลี่ยงหลุมดำ ซึ่งก็คืออัตราผลตอบแทนที่น่าจูงใจ" เคอร์ริส มิวบอร์น กรรมการผู้จัดการพิมโคกล่าว
ตลาดพันธบัตรกลุ่มคอร์ปอเรทบอนด์คึกคักมากในปีนี้ เนื่องจากตลาดเงินและตลาดทุนเริ่มฟื้นตัวขึ้นหลังจากถูกกระทบอย่างหนักจากวิกฤตการณ์การเงินโลกและภาวะหดตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์สหรัฐในปี 2550 และหลังจากการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส อย่างไรก็ตาม พิมโคมองว่าภาวะเศรษฐกิจและธุรกิจทั่วโลกในขณะนี้ยังย่ำแย่กว่าช่วงไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว และวิกฤตการณ์สินเชื่อยังคงรุนแรงในระดับเดียวกับช่วงก่อนการล้มละลายของเลห์แมน บราเธอร์ส
"พันธบัตรประเภทต่างๆให้ผลประโยชน์ตอบแทนกับนักลงแทนเพียง 13% ในปีนี้ เราคิดว่าการผลประโยชน์จากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเป็นเรื่องที่ไม่คุ้มในขณะนี้ เพราะอัตราการผิดนัดชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับผู้ถือพันธบัตรอยู่ในระดับที่สูงมาก" มิวบอร์นกล่าว
บลูมเบิร์กรายงานว่า สแตนดาร์ด แอนด์ พัวร์ (เอสแอนด์พี) และมูดีส์ อินเวสเตอร์ เซอร์วิส ปรับลดอันดับความน่าเชื่อถือของพันธบัตรที่ให้อัตราผลตอบแทนสูง หรือ จังค์บอนด์ ลงสู่ระดับ BBB- เนื่องจากอัตราการผิดนัดชำระดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับผู้ถือพันธบัตรมีแนวโน้มสูงขึ้นอีก