ประธานาธิบดีลูอิซ อินาซิโอ ลูลา ดา ซิลวา ของบราซิลวางแผนพัฒนาบ่อน้ำมันนอกชายฝั่งอย่างรัดกุม หลังจากนักลงทุนกระหน่ำขายหุ้นปิโตรบาส ซึ่งรัฐวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซของบราซิล เป็นมูลค่าถึง 7 พันล้านดอลลาร์ภายในวันเดียว ซึ่งทำให้หุ้นปิโตรบาสร่วงลงหนักสุดในรอบ 6 เดือน
นายลูลากล่าวว่า แผนการดังกล่าวจะเปิดทางให้รัฐบาลเข้าไปถือหุ้นในปิโตรบาสและเพื่อสร้างความมั่นใจว่ารายได้ส่วนใหญ่จากการขุดเจาะน้ำมันจะอยู่ในมือของชาวบราซิล
เดวิด ซิลเบิร์กสเตน อดีตประธานการปิโตรเลียมแห่งบราซิล ซึ่งปัจจุบันเป็นอาจารย์ประจำมหาวิทยาลัย Catholic University ในเมืองเซาเปาโล กล่าวว่า "หุ้นปิโตรบาสร่วงเพราะไม่มีใครรู้ว่าบทบาทของปิโตรบาสเป็นอย่างไร"
บลูมเบิร์กรายงานโดยอ้างการเปิดเผยของทำเนียบประธานาธิบดีบราซิลว่า ปิโตรบาสจะเป็นผู้ดำเนินการเพียงรายได้เพียวในบ่อน้ำมันซึ่งสหรัฐมีส่วนในการค้นพบครั้งใหญ่นับตั้งแต่ปีพ.ศ.2519 และจะเข้าไปถือหุ้นขั้นต่ำ 30% ในบริษัทพลังงานร่วมทุนแห่งหนึ่งที่กำลังอยู่ในขั้นตอนการขอใบอนุญาต นอกจากนี้ คาดว่า รัฐบาลบราซิลจะเข้าไปถือหุ้นในปิโตรบาสมากขึ้นเพื่อแลกกับสิทธิในการสำรวจและขุดเจาะน้ำมัน
ปิโตรบาสแถลงแผนดำเนินธุรกิจปี 2552-2556 เมื่อไม่นานมานี้ โดยตั้งเป้าเพิ่มเม็ดเงินลงทุนเพิ่มขึ้น 55% คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1.74 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงการจัดสรรเงิน 1.57 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นสัดส่วน 90% ของงบประมาณการลงทุนทั้งหมดเพื่อใช้สำหรับโครงการต่างๆภายในประเทศ ซึ่งตัวเลขงบประมาณดังกล่าวคำนวณจากพื้นฐานของราคาน้ำมันเฉลี่ยที่ 42 ดอลลาร์/บาร์เรล และจะทุ่มเงิน 9.2 หมื่นล้านดอลลาร์ในโครงการสำรวจและผลิตน้ำมัน ซึ่งเป็นตัวเลขที่เพิ่มขึ้น 71% จากแผนการครั้งก่อน
ทั้งนี้ การประกาศแผนดำเนินธุรกิจของปิโตรบาสได้ถูกเลื่อนมาหลายครั้งนับตั้งแต่เดือนก.ย.เนื่องจากบริษัทจำเป็นต้องทบทวนสถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับวิกฤตการเงินทั่วโลกและผลกระทบที่เกิดขึ้นในตลาดน้ำมัน