ฮ่องกงเตรียมเปิดขายพันธบัตรรัฐบาลล็อตแรกหลังทิ้งช่วงไปตั้งแต่ปี 2547 ตั้งเป้าดึงดูดเงินนักลงทุน 3.5 พันล้านดอลลาร์ฮ่องกง (452 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) พร้อมใช้เป็นช่องทางการระบายสภาพคล่องในระบบธนาคารที่มีอยู่มากเป็นประวัติการณ์
เจเอฟ แอสเสท เมเนจเมนท์ และไอเอ็นจี อินเวสเมนท์ เมเนจเมนท์เปิดเผยว่า ฮ่องกงจะเปิดขายพันธบัตรระยะ 2 ปีซึ่งให้อัตราผลตอบแทนที่ 0.92% โดยจะครบกำหนดไถ่ถอนเดือนก.ย.2554 หลังจากระบบธนาคารในฮ่องกงมีเม็ดเงินไหลเวียนเป็นจำนวนมาก โดยเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายการเงินของฮ่องกงได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระดับธนาคารกว่า 2.50 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกงในช่วง 7 เดือนแรกของปีนี้เพื่อป้องกันการแข็งค่าของสกุลเงิน
สตีเฟ่น ฉาง นักวิเคราะห์จากเจเอฟ แอสเสท กล่าวว่า "เราจะรับมือกับสถานการณ์ต่างๆอย่างเหมาะสม โดยเฉพาะในยามที่ภาคธนาคารมีสภาพคล่องอยู่ในระดับสูง"
ทั้งนี้ เมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมา ทางการฮ่องกงได้อนุมัติแผนการขายพันธบัตร 1 แสนล้านดอลลาร์ฮ่องกงในช่วง 2-3 ปีหน้า เพื่อพัฒนาตลาดในฮ่องกง โดยตลาดเงินของฮ่องกงซึ่งมีเม็ดเงิน 8.8 หมื่นล้านดอลลาร์นั้นมีหลักทรัพย์ของรัฐบาลอยู่ 23% และมีหุ้นกู้เอกชนในสัดส่วน 77%
บลูมเบิร์กรายงานว่า สัดส่วนเงินกู้ในสกุลเงินดอลลาร์ฮ่องกงเมื่อเทียบกับอัตราเงินฝากนั้นอยู่ที่ 70.8% ในช่วงสิ้นเดือนก.ค.เมื่อเทียบกับอัตราเฉลี่ยที่ 79.3% เมื่อปีที่แล้ว ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแทรกแซงของธนาคารกลางผ่านการจัดระเบียบการซื้อขายในตลาดปริวรรตเงินตรา โดยเงินดอลลาร์ฮ่องกงเคลื่อนไหวที่ 7.8 ดอลลาร์ฮ่องกงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐนับตั้งแต่ปี 2526 และในวันนี้สกุลเงินดังกล่าวเคลื่อนไหวที่ 7.7507 ดอลลาร์
ขณะเดียวกัน นักลงทุนบางกลุ่มกล่าวว่า พวกเขาจะไม่ซื้อพันธบัตรรัฐบาลฮ่องกงที่จะประกาศขายในวันพรุ่งนี้ เนื่องจากมองว่าพันธบัตรสหรัฐระยะ 2 ปีให้อัตราผลตอบแทน 0.97% ซึ่งสูงกว่าพันธบัตรฮ่องกง