ภาคการผลิตสหรัฐอาจขยายตัวเป็นครั้งแรกในรอบ 19 เดือนในเดือนสิงหาคม ซึ่งจะช่วยดึงเศรษฐกิจสหรัฐขึ้นจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงสุดในรอบเกือบ 80 ปี
โดยผลสำรวจความเห็นนักเศรษฐศาสตร์ 74 รายซึ่งจัดทำโดยบลูมเบิร์ก นิวส์ คาดว่า ดัชนีภาคการผลิตของสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) จะขยายตัวแตะ 50.5 จุดในเดือนสิงหาคม จาก 48.9 จุดในเดือนกรกฎาคม ทั้งนี้ หากตัวเลขอยู่เหนือระดับ 50 จุดถือว่ามีการขยายตัว
หากดัชนีภาคการผลิตดีดตัวขึ้นจริงจะหมายความว่ามาตรการกระตุ้นการปล่อยสินเชื่อของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) รวมถึงมาตรการลดภาษีให้ผู้ซื้อบ้านครั้งแรกและโครงการรถเก่าแลกซื้อรถใหม่ของรัฐบาลโอบามา ประสบผลสำเร็จในการกระตุ้นอุปสงค์ และอาจส่งผลให้โรงงานและบริษัทก่อสร้างมีการขยายตัวในช่วงหลายเดือนต่อจากนี้
"หลายสิ่งหลายอย่างเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้นและต่อจากนี้ไปทุกอย่างจะดีขึ้นเรื่อยๆ" โจนาธาน เบซิล นักเศรษฐศาสตร์จากเครดิต สวิส ในนิวยอร์ก กล่าว
ทั้งนี้ ISM จะเปิดเผยดัชนีภาคการผลิตอย่างเป็นทางการในเวลา 10.00 น.ตามเวลานิวยอร์ก โดยคาดว่าตัวเลขดังกล่าวน่าจะอยู่ระหว่าง 49 - 53.5 จุด ซึ่งหากเป็นดังคาดการณ์จริงจะถือเป็นตัวเลขสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคมปีที่แล้ว
ในขณะเดียวกันสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งสหรัฐก็จะเปิดเผยยอดขายบ้านมือสองที่รอปิดการขาย ซึ่งนักเศรษฐศาสตร์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.6% ในเดือนกรกฎาคม ซึ่งหากเป็นจริงก็จะเพิ่มขึ้นเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกัน และถือว่าเพิ่มขึ้นติดต่อกันยาวนานสุดนับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลเมื่อปี 2544