เครือ CP คาดเศรษฐกิจไทยไตรมาส 3/52 ติดลบลดลงเหลือ 2.5-2.6%

ข่าวเศรษฐกิจ Tuesday September 1, 2009 12:44 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายอาชว์ เตาลานนท์ รองประธานกรรมการ เครือเจริญโภคภัณฑ์(CP)มองว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทย(GDP)ไตรมาส 4/52 จะพลิกกลับมาเป็นบวกได้ จากไตรมาส 3/52 ที่คาดว่า GDP จะติดลบลดลงเหลือประมาณ 2.5-2.6% โดยทั้งปี 52 คาดว่า GDP จะติดลบประมาณ 4%

แต่ปีหน้าคาดว่าเศรษฐกิจไทยจะเติบโตราว 2-3% และจะเริ่มเห็นการฟื้นตัวที่ชัดเจนขึ้นอีกประมาณ 2-3 ปีข้างหน้า หรือประมาณปี 55 เศรษฐกิจไทยจะกลับมาดีขึ้น แต่คงไม่เติบโตหรือดีเหมือนก่อนที่จะเกิดวิกฤตที่เศรษฐกิจเติบโตในระดับสูงประมาณ 7-8% คงไม่เห็นกันแล้ว

นายอาชว์ กล่าวว่า ปัจจัยที่จะต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด ได้แก่ การเมืองในประเทศ, ราคาน้ำมัน และ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ซึ่งปัจจัยเรื่องการเมืองในประเทศจะกระทบอย่างมากต่อการเติบโตของเศรษฐกิจ โดยความวุ่นวายทางการเมืองที่ขณะนี้ประเทศไทยกำลังประสบอยู่ สร้างความสูญเสียโอกาสของประเทศไทย ทั้งเรื่องความเชื่อมั่น การลงทุน การท่องเที่ยว และการพัฒนาเศรษฐกิจ

“ตราบใดที่การเมืองไทยไม่นิ่ง เสถียรภาพรัฐบาลไม่มี โอกาสที่เศรษฐกิจไทยจะปรับตัวลงต่ออีกอาจเป็นไปได้ และโอกาสที่จะเห็นความชัดเจนของการเติบโตของเศรษฐกิจในระยะเวลาอันสั้น ๆ นี้คงเป็นไปได้ยาก…เวลานี้ ความเชื่อมั่นต่างประเทศ ยังไม่ดีขึ้น เพราะปัจจัยการเมืองเป็นปัจจัยหลัก"นายอาชว์ กล่าว

ส่วนราคาน้ำมัน มองว่าปีนี้ราคาปรับตัวขึ้นไม่เกิน 80 เหรียญ/บาร์เรล และปีหน้าอาจจะปรับขึ้นไปถึง 85 เหรียญ/บาร์เรล และมีโอกาสเห็นแตะ 100 เหรีญ/บาร์เรล แต่คงไม่ถึง 150 เหรียญ/บาร์เรลเหมือนที่เกิดขึ้นในปีก่อน แต่ก็จะส่งผลให้ต้นทุนของเอกชนเพิ่มขึ้น ในทางกลับกัน สินค้าเกษตรที่ใช้เป็นพลังงานทดแทนก็มีโอกาสดี เช่น มันสำปะหลัง อ้อย และ ปาล์มน้ำมัน จึงเห็นว่ารัฐบาลควรให้การสนับสนุน นอกจากนี้ ราคายางพาราก็จะดีขึ้นไปด้วยหากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น

ด้านนายสารสิน วีระผล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่บริหาร เครือเจริญโภคภัณฑ์ กล่าวว่า แนวโน้มเศรษฐกิจไทยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้น่าจะมีแนวโน้มดีขึ้น แม้ว่าปัจจุบันการลงทุนของภาคเอกชนยังอยู่ในภาวะถดถอยก็ตาม แต่เชื่อว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศของรัฐบาลน่าจะส่งผลดี

“ผมอยากให้เศรษฐกิจไทยเป็นแบบ U shape คือค่อยๆฟื้น แต่ก็มองว่า V shape ก็เป็นไปได้ แต่ก็กลัวว่าจะเป็น W shape เพราะหากเงินกระตุ้นเศรษฐกิจหมด เศรษฐกิจใน real sector ก็จะแย่" นายสารสิน กล่าว


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ