สหรัฐเผยยอดทำสัญญาขายบ้านเดือนก.ค.พุ่งขึ้นเกินคาด 3.2% หลังรบ.ใช้นโยบายลดหย่อนภาษี

ข่าวต่างประเทศ Wednesday September 2, 2009 09:06 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

สมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) เพิ่มขึ้น 3.2% สู่ระดับ 97.6% ในเดือนก.ค.ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.2550 และสะท้อนให้เห็นว่า ตลาดอสังหาริมทรัพย์ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรงแล้ว

ไมค์ ลาร์สัน นักวิเคราะห์ด้านอสังหาริมทรัพย์จาก Weiss Research กล่าวกับเอพีว่า รายงานยอดทำสัญญาขายบ้านที่เพิ่มขึ้นแข็งแกร่งในเดือนก.ค.ทำสถิติพุ่งขึ้นสูงสุดในรอบ 2 ปี และเพิ่มขึ้นมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ระดับ 96.5% ซึ่งเป็นผลมาจากนโยบายลดหย่อนภาษีและนโยบายสนับสนุนอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์คาดว่า ยอดทำสัญญาขายบ้านจะลดลงเมื่อนโยบายลดหย่อนภาษีหมดอายุลง หรือเมื่ออัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซื้อบ้านปรับตัวเพิ่มขึ้นจากระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ นอกจากนี้ อัตราการยึดบ้านหลุดจำนองมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น ซึ่งจะทำให้ธนาคารที่ปล่อยเงินกู้นำบ้านออกขายทอดตลาด สถานการณ์ดังกล่าวจะยิ่งทำให้ราคาบ้านตกต่ำลงอีก

ดัชนีราคาบ้านในสหรัฐซึ่งสำรวจโดย S&P/Case-Shiller ปรับตัวสูงขึ้น 1.4% ในไตรมาส 2 ซึ่งข้อมูลดังกล่าวได้รับการเปิดเผยหลังจากสมาคมนายหน้าค้าอสังหาริมทรัพย์ของสหรัฐรายงานยอดขายบ้านมือสองเดือนก.ค.ที่ขยายตัว 7.2% ทำสถิติเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ