เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 7 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินยูโรท่ามกลางกระแสคาดการณ์ที่ว่า ตลาดหุ้นเอเชียจะยังคงเป็นตัวถ่วงตลาดหุ้นทั่วโลกให้ลดลง หลังเกิดความกังวลว่าสถาบันการเงินของสหรัฐจะประสบภาวะขาดทุนมากขึ้น
สกุลเงินเยนแข็งค่าเมื่อเทียบกับทุกสกุลเงินหลังซีไอที กรุ๊ป อิงค์ เปิดเผยถึงการปรับลดการจ่ายดอกเบี้ยพันธบัตรด้อยสิทธิที่ครบกำหนดส่งมอบในปี 2610 ส่วนเงินยูโรเคลื่อนไหวใกล้แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 สัปดาห์เมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐ หลังรัฐมนตรีคลังเยอรมนีกล่าวว่า ปัจจัยทางการเงินอาจเลวร้ายลงในยามที่เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 08:45 น.ตามเวลาท้องถิ่นในกรุงโตเกียว เงินเยนแข็งค่าขึ้นแตะที่ 131.51 ต่อยูโร จากระดับ 132.19 ต่อยูโร และขยายตัวแตะระดับ 92.55 ต่อดอลลาร์ จากระดับ 92.92 ต่อดอลลาร์
สำหรับเงินยูโรเทรดที่ระดับ 1.4208 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับ 1.4224 ดอลลาร์/ยูโร ส่วนเงินปอนด์อ่อนค่าลงเทียบดอลลาร์ที่ 1.6124 ดอลลาร์/ปอนด์ จากระดับ 1.6160 ดอลลาร์/ปอนด์
โตชิฮิโกะ ซากาอิ นักวิเคราะห์จาก Mitsubishi UFJ Trust & Banking Corp. ในโตเกียวกล่าวว่า "บรรยากาศการซื้อขายถูกปกคลุมด้วยความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ในภาคธนาคารของสหรัฐ ทำให้เทรดเดอร์ส่งคำสั่งซื้อเข้าหนุนสกุลเงินเยนและดอลลาร์มากขึ้น"
ขณะเดียวกันนักวิเคราะห์ท่านอื่นๆระบุว่า "ธนาคารสหรัฐอาจยังไม่มีเงินทุนสำรองมากพอที่จะชดเชยตัวเลขการปรับลดมูลค่าทางบัญชีอันเป็นผลจากการที่ตลาดอสังหาริมทรัพย์ซบเซา"
ทั้งนี้ เงินเยนมีแนวโน้มพุ่งสูงขึ้นท่ามกลางวิกฤตตลาดเงิน จากอานิสงส์ของยอดเกินดุลการค้าที่ช่วยให้ญี่ปุ่นลดการพึ่งพาเม็ดเงินต่างประเทศ ขณะเดียวกันเงินดอลลาร์ก็ได้ประโยชน์จากการที่เป็นสกุลเงินหลักในทุนสำรองเงินต่างประเทศทั่วโลก