นายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมที่จะพิจารณาปรับลดภาษีนิติบุคคลให้ลดลงเหลือ 25% จากปัจจุบันที่จัดเก็บอยู่ในอัตรา 30% ซึ่งเป็นไปตามนโยบายที่ได้ประกาศไว้ตั้งแต่เข้ามาเป็นรัฐบาล แต่เห็นว่าในช่วงปี 52-53 ยังไม่ใช่ช่วงเวลาที่เหมาะสม เพราะการปรับลดภาษีต้องคำนึงถึงผลกระทบที่จะมีต่อเป้าการจัดเก็บรายได้ของรัฐ เนื่องจากรัฐบาลมีภาระรายจ่ายเป็นจำนวนมากขณะที่มีรายได้จำกัด
ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ 52 นี้รัฐบาลตั้งเป้าการจัดเก็บรายได้ไว้ที่ 1.35 ล้านล้านบาท ซึ่งยังไม่เพียงพอที่จะจัดสรรไปใช้ในการพัฒนาประเทศ ขณะที่มีงบประมาณรายจ่ายอยู่ที่ 1.7 ล้านล้านบาท ทำให้รัฐบาลต้องจัดทำงบประมาณแบบขาดดุลถึง 3.5 แสนล้านบาท
รมว.คลัง กล่าวว่า รัฐบาลจำเป็นที่จะต้องคงอัตราจัดเก็บภาษีไว้เท่าเดิม เพื่อรักษาระดับรายได้ให้เพียงพอในการพัฒนาประเทศ แต่คาดหวังว่าแนวโน้มการขยายตัวทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นจะช่วยให้รัฐบาลสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มมากขึ้นจนทำให้รัฐบาลสามารถจัดทำงบประมาณแบบสมดุลในปีงบประมาณ 58
อย่างไรก็ตาม การพิจารณาปรับโครงสร้างภาษีทั้งระบบต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยดูว่าอัตราภาษีที่บังคับใช้อยู่ประเภทใดยังไม่มีความเหมาะสม เพื่อพิจารณาปรับปรุงให้เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
รมว.คลัง กล่าวว่า แนวโน้มการจัดเก็บรายได้ของ 3 หน่วยงานหลัก คือ กรมสรรพากร กรมสรรพสามิต และกรมศุลกากร ในช่วง 3-4 เดือนที่ผ่านมาอยู่ในทิศทางที่เป็นบวกแล้ว ทำให้คาดว่าการจัดเก็บรายได้ในปีนี้จะต่ำกว่าเป้าหมายที่กำหนดไว้เพียง 1.7 แสนล้านบาท จากเดิมที่คาดว่าจะต่ำกว่าเป้าหมายถึง 3 แสนล้านบาท