ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งแกร่งขึ้นหลังจากสำนักงานสถิติแห่งชาติรายงานว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของออสเตรเลีย ซึ่งเป็นตัวเลขชี้วัดอัตราการขยายตัวของเศรษฐกิจในประเทศ ขยายตัว 0.6% ในไตรมาส 2 ซึ่งมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะขยายตัวเพียง 0.2% และมากกว่าไตรมาสแรกที่ขยายตัว 0.4% เนื่องจากตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
เกร็ก กิบส์ นักวิเคราะห์จากรอยัล แบงค์ ออฟ สก็อตแลนด์ กล่าวว่า "จีดีพีไตรมาส 2 ของออสเตรเลียที่ขยายตัวมากเกินคาดอาจทำให้ธนาคารกลางออสเตรเลียปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่ยืนอยู่ในระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ในขณะนี้ จีดีพีที่ขยายตัวเกินคาดทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียเพราะอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มสูงขึ้นจะจะช่วยหนุนสกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียให้แข็งแกร่งขึ้นด้วย"
บลูมเบิร์กรายงานว่า ณ เวลา 11.55 น.ตามเวลาซิดนีย์ สกุลเงินดอลลาร์ออสเตรเลียพุ่งขึ้นแตะระดับ 83.17 เซนต์สหรัฐ จากระดับก่อนที่จะเปิดเผยตัวเลขจีดีพีที่ 82.74 เซนต์สหรัฐ ขณะที่สุลเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์พุ่งขึ้น 0.2% แตะที่ 67.66 เซนต์สหรัฐ จากวานนี้ที่ระดับ 67.52 เซนต์สหรัฐ
ธนาคารตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับเดิม 3% เป็นเดือนที่ 5 ติดต่อกันในการประชุมเมื่อวานนี้ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจที่เริ่มส่งสัญญาณของการฟื้นตัวมากขึ้น โดยนายเกล็น สตีเฟนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลียกล่าวว่า เศรษฐกิจออสเตรเลียแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ เนื่องจากผู้บริโภคออกมาจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น ประกอบกับยอดส่งออกและการลงทุนในภาคธุรกิจที่ฟื้นตัวขึ้น
นอกจากนี้ ธนาคารกลางออสเตรเลียคาดการณ์ว่า ตัวเลขจีดีพีจะขยายตัวขึ้นอีกใน 2-3 ไตรมาสข้างหน้านี้ เนื่องจากรัฐบาลได้อัดฉีดงบประมาณด้านการสร้างถนน ทางรถไฟ และโรงงาน เพิ่มขึ้นเป็น 2.2 หมื่นล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ