ผลสำรวจความคิดเห็นของนักวิเคราะห์ซึ่งจัดทำโดยธนาคารกลางสิงคโปร์คาดว่า ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) จะหดตัวลง 3.6% ในปีนี้ น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัวรุนแรงถึง 6.5% และมากกว่าที่รัฐบาลประเมินว่า จะหดตัวราว 4-6% เนื่องจากภาคการผลิตภายในประเทศเริ่มฟื้นตัวขึ้น
เศรษฐกิจในไตรมาส 2 ของสิงคโปร์ขยายตัวในอัตรา 20.7% ต่อปี หลังจากหดตัวลง 12.2% ในไตรมาสแรก ซึ่งเป็นสถิติที่ขยายตัวมากกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 20.4% เพราะได้รับแรงหนุนจากภาคการผลิตและภาคบริการที่ฟื้นตัวขึ้น ปัจจัยดังกล่าวช่วยหนุนเศรษฐกิจสิงคโปร์ให้ฟื้นตัวขึ้นหลังจากที่เผชิญกับภาวะถดถอยรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่สิงคโปร์ได้รับเอกราชเมื่อ 44 ปีที่แล้ว
นายกรัฐมนตรีหลี่ เซี่ยน หลุนของสิงคโปร์กล่าวว่า รัฐบาลทั่วโลกได้ร่วมมือกันใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจวงเงินรวมกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อรับมือกับวิกฤตเศรษฐกิจโลก ซึ่งมาตรการดังกล่าวช่วยหนุนยอดส่งออกของบริษัทในเอเชียให้มีเสถียรภาพขึ้น รวมถึงบริษัท นิสสัน มอเตอร์ และยังทำให้เศรษฐกิจสิงคโปร์มีสถานะที่แข็งแกร่งขึ้นด้วย เศรษฐกิจสิงคโปร์ส่งสัญญาณฟื้นตัวหลังจากทางการสิงคโปร์เปิดเผยข้อมูลที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจเริ่มมีเสถียรภาพมากขึ้น โดยล่าสุดกระทรวงแรงงานสิงคโปร์รายงานว่า อัตราว่างงานภายในประเทศประจำไตรมาส 2 ทรงตัวอยู่ที่ระดับ 3.3% ไม่เปลี่ยนแปลงจากไตรมาสแรก และดีกว่าที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ไว้ที่ 3.7% เนื่องจากเศรษฐกิจสิงคโปร์เริ่มฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง โดยกระทรวงระบุว่าภาคเอกชนลดการจ้างงาน 5,500 ตำแหน่งในไตรมาส 2 เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกที่ 12,760 ตำแหน่ง
ผลสำรวจบ่งชี้ว่า นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าภาคการผลิตของสิงคโปร์จะชะลอตัวลง 7.1% น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 14% ขณะเดียวกันคาดว่ายอดส่งออกที่ไม่นับรวมสินค้าประเภทน้ำมัน จะลดลงเพียง 11.5% ในปีนี้ น้อยกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะร่วงลง 14.1% และคาดว่าอุตสาหกรรมก่อสร้างจะขยายตัว 17.3% ในปีนี้ ส่วนภาคการเงินคาดว่าจะหดตัวลง 3%
นอกจากนี้ ผลสำรวจยังบ่งชี้ว่า ดัชนีราคาผู้บริโภคสิงคโปร์จะทรงตัวในปีนี้ หลังจากพุ่งขึ้น 6.5% ในปีที่แล้ว และคาดว่าอัตราว่างงานอาจพุ่งแตะ 3.8% ในปีนี้ น้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าจะพุ่งแตะ 4.2% บลูมเบิร์กรายงาน