ธนารักษ์ เดินหน้าจัดสรรที่ราชพัสดุให้เกษตรกรเช่าราคาถูก 2 แสนไร่ปีนี้ตามเป้า

ข่าวเศรษฐกิจ Thursday September 3, 2009 10:33 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

กรมธนารักษ์ เดินหน้ามอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุให้ได้ตามเป้าหมายในปีงบประมาณ 52 ใน 25 จังหวัด เนื้อที่ประมาณ 200,000 ไร่ โดยขณะนี้ได้จัดสรรให้เกษตรกรเช่าไปแล้วในพื้นที่ 4 จังหวัด รวมเนื้อที่ประมาณ 53,887 ไร่ จำนวนผู้เช่า 5,325 ราย

และจะเร่งดำเนินการมอบสัญญาเช่าในเร็วๆ นี้ อีก 3 จังหวัด คือ จ.สระแก้ว เนื้อที่ประมาณ 10,000 ไร่ จำนวนผู้เช่า 900 ราย เกษตรกรส่วนใหญ่ ทำอาชีพปลูกข้าวโพด มันสำปะหลัง และยูคาลิปตัส จ.กาฬสินธุ์ เนื้อที่ประมาณ 3,000-5,000 ไร่ จำนวนผู้เช่า 1,100 ราย เกษตรกรปลูกพืชอาหาร จ.บุรีรัมย์ เนื้อที่ประมาณ 1,200 ไร่ จำนวน ผู้เช่า 100 ราย เกษตรกรปลูกข้าว มันสำปะหลัง และอ้อย

วันนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธานมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุตามโครงการนำที่ดินราชพัสดุปลูกพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงาน โดยได้มอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุของกรมธนารักษ์ตามโครงการ 1 ล้านไร่มิติใหม่ที่ราชพัสดุแก่เกษตรกรชาวปทุมธานีและสระบุรี จำนวน 1,182 ราย เป็นเนื้อที่รวม 7,912 ไร่ โดยมีนายกรณ์ จาติกวณิช รมว.คลัง พร้อมผู้บริหารกระทรวงการคลัง ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี หัวหน้าส่วนราชการ เกษตรกร และประชาชนเข้าร่วมงาน

การมอบสัญญาเช่าที่ดินราชพัสดุครั้งนี้ แยกเป็นจัดสรรให้เกษตรกร ในจ.ปทุมธานี เนื้อที่ประมาณ 7,174 ไร่ จำนวนผู้เช่า 1,142 ราย และ จ.สระบุรี เนื้อที่ประมาณ 738 ไร่ จำนวนผู้เช่า 40 ราย

นายพฤฒิชัย ดำรงรัตน์ รมช.คลัง กล่าวว่า กระทรวงการคลัง มีนโยบายนำที่ดินราชพัสดุมาสนับสนุนการปลูกพืชอาหารและพืชทดแทนพลังงาน เพื่อจัดสรรให้แก่ประชาชนที่มีอาชีพเกษตรกรรม หรือผู้ที่มีความประสงค์จะประกอบอาชีพเกษตรกรรม ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาการว่างงานและต้องการกลับภูมิลำเนาเพื่อประกอบอาชีพเกษตรกรรมที่ได้เช่าที่ดินราชพัสดุ เพื่อทำการเกษตร ในอัตราค่าเช่าที่เหมาะสม

และเพื่อโครงการประสบความสำเร็จบรรลุตามเป้าหมาย จึงได้มีการบูรณาการกับหน่วยงานต่างๆ ทั้งส่วนกลางและภูมิภาค เพื่อให้ความรู้ทางด้านการเกษตรแก่ราษฎรที่เข้าร่วมโครงการการจัดหาสายพันธุ์พืชที่ดี ปุ๋ยที่มีคุณภาพและราคาถูก การพัฒนาดินและแหล่งน้ำ และความร่วมมือจากภาคอุตสาหกรรมและพาณิชยกรรม ในเรื่องการนำผลผลิตด้านการเกษตรสู่ผู้บริโภค การควบคุมปริมาณผลผลิตอย่างเหมาะสม ความเป็นธรรมในเรื่องราคาและคุณภาพผลผลิต เพื่อให้เกิดการพัฒนาปรับปรุงการเกษตรกรรมอย่างมีเป้าหมายและครบวงจร



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ