รมช.พาณิชย์ เผยขณะนี้ตรวจสอบพบนายทุนต่างชาติ 2-3 บริษัทจ้างคนไทยทำนาและปศุสัตว์ในพื้นที่ภาคกลางนับพันไร่ โดยประสานให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(DSI) ดำเนินการสอบสวนในเชิงลึกและทางลับต่อไป พร้อมประสานทูตพาณิชย์-บีโอไอชี้แจงกฎหมายต่างด้าวในนักธุรกิจต่างชาติเข้าใจว่าไม่ได้กีดกันต่างชาติเข้ามาลงทุน
"ตรวจสอบพบมี 2-3 บริษัทที่เป็นลักษณะโฮลดิ้ง ถือหุ้นไขว้กันไปมา โดยมีคนไทยถือหุ้น 51% ต่างชาติถือหุ้น 49% และวัตถุประสงค์การก่อตั้งบริษัทชัดเจนว่าทำธุรกิจทำนาและการเกษตร ซึ่งเป็นบริษัทที่เสี่ยงในการเป็นนอมินี จึงได้ขอให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้าไปตรวจสอบดูงบการเงิน งบดุลของบริษัทดังกล่าวและบริษัทในเครือทั้งหมด" นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ กล่าว
นายอลงกรณ์ กล่าวว่า ได้รับรายงานของดีเอสไอที่ส่งเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่ตรวจสอบการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวในธุรกิจสงวนของคนไทยตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 ทั้งการทำนาและปศุสัตว์ โดยพบเหตุอันควรที่เชื่อถือได้ว่าอาจจะมีการใช้คนไทยถือหุ้นแทนคนต่างชาติ(นอมินี) เพื่อทำธุรกิจในพื้นที่ภาคกลางกินพื้นที่นับพันไร่
"ผมได้ขอให้ดีเอสไอสอบสวนเชิงลึกและเชิงลับต่อไป แม้ว่าในภาพรวมผลการตรวจสอบของดีเอสไอจะยังไม่พบพฤติกรรมการเป็นนอมินี หากพบว่าเข้าข่ายเป็นนอมินีจริงจะดำเนินการตามกฎหมายต่อไป" นายอลงกรณ์ กล่าว
รมช.พาณิชย์ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ในต่างประเทศ ได้ทำความเข้าใจกับนักลงทุนในประเทศต่างๆ ถึงรายละเอียดของกฎหมายต่างด้าว และยืนยันชัดเจนว่า ไทยไม่ได้กีดกันการลงทุนจากต่างประเทศ เพียงแต่การประกอบธุรกิจที่เป็นอาชีพสงวนของคนไทยต้องดำเนินการตามกฎหมายต่างด้าวเท่านั้น