ประธานกรรมการกำกับกิจการพลังงาน(กกพ.)หรือเรคกูเลเตอร์ เผยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) ยังต้องรับภาระค่าไฟฟ้าผันแปร(Ft) ค้างจ่าย 15,182 ล้านบาท หลังจากรัฐบาลสั่งตรึงค่า Ft ออกไปอีก 1 ปี
นายดิเรก ลาวัณย์ศิริ ประธาน กกพ.กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลตรึงค่า Ft เป็นเวลา 1 ปี ทำให้ค่า Ft ในงวดเดือน ก.ย.-ธ.ค.52 ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดิมที่จะต้องปรับขึ้น 34.52 สตางค์ต่อหน่วย ส่งผลให้ กฟผ.มีรายได้ค้างรับเหลืออยู่ 15,182 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าภายใน 1 ปีจะได้รับรายได้ค้างรับคืนทั้งหมดหากต้นทุนเชื้อเพลิงไม่เปลี่ยนแปลง
สำหรับราคาก๊าซธรรมชาติในงวดนี้ลดลงจาก 233.28 บาทต่อล้านบีทียู เหลือ 225.19 บาทต่อล้านบีทียู หรือลดลง 8.09% ซึ่งเป็นผลดีให้ต้นทุนค่าไฟฟ้าลดลงจากงวดก่อนหน้าที่ กฟผ.ต้องมีรายค้างรับ 20,821 ล้านบาท หรือลดลง 5,600 ล้านบาท
ประธาน กกพ.กล่าวว่า ผลงานของ กกพ.ในรอบ 1 ปีที่ผ่านมา เน้นการวางรากฐานพลังงาน ส่งเสริมพลังงานหมุนเวียน และกำลังอยู่ระหว่างศึกษาค่าบริการและกำหนดค่าไฟฟ้าที่เหมาะสม เนื่องจากโครงสร้างค่าไฟฟ้าในปัจจุบันใช้มาตั้งแต่เดือน ต.ค.48 ซึ่งครบกำหนดระยะเวลาตามสมมติฐานการประมาณการฐานะการเงินของหน่วยงานด้านการไฟฟ้าทั้ง 3 แห่ง โดยคาดว่า การศึกษาจะแล้วเสร็จในปี 53 ส่วนการตั้งกองทุนพัฒนาไฟฟ้าซึ่งอยู่ระหว่างการยกร่างหลักเกณฑ์และระเบียบคาดว่าจะแล้วเสร็จในต้นปี 53