พณ.ฟันธงส่งออกปี53โต 2หลัก ปี52คาด-15%แม้สัญญาณศก.ครึ่งปีหลังเริ่มฟื้น

ข่าวเศรษฐกิจ Sunday September 6, 2009 07:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายราเชนทร์ พจนสุนทร อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก คาดว่า การส่งออกของไทยในปี 53 จะสามารถขยายตัวเพิ่มขึ้นจากปีนี้เป็นเลขสองหลักได้อย่างแน่นอน เนื่องจากสัญญาณทางเศรษฐกิจหลายตัวมีแนวโน้มไปในทิศทางที่ดีขึ้น แต่ขณะนี้คงยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจนว่าจะเติบโตอยู่ในระดับเท่าใด เพราะต้องรอการประเมินตัวเลขร่วมกันจากภาคเอกชนผู้ส่งออกของไทย ตลอดจนสำนักงานพาณิชย์ในต่างประเทศก่อน

"ปีหน้าส่งออกเป็นบวกแน่ 2 หลักเป็นไปได้แน่นอน แต่ถามวันนี้ยังไม่พร้อมจะตอบเพราะต้องแชร์ข้อมูลจากผู้ส่งออก และสำนักงานพาณิชย์ไทยในต่างประเทศก่อน แต่สัญญาณเศรษฐกิจโลกในขณะนี้ดีขึ้นมาก" นายราเชนทร์ ระบุ

ก่อนหน้านี้ กระทรวงพาณิชย์เคยประเมินเบื้องต้นว่าการส่งออกไทยในปี 53 จะเติบโตที่ 12-15%

สำหรับกลยุทธ์ที่ใช้ในการส่งเสริมการส่งออกปี 53 นั้น ประกอบด้วย 5 ด้าน คือ 1.ผลักดันการส่งเสริมการส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารอย่างเต็มที่ โดยเพิ่มสัดส่วนสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารเป็น 17-19% 2.สนับสนุนการลดต้นทุนสินค้าในระบบ Trade Logistics โดยขยายการให้บริการศูนย์บริการส่งออกแบบเบ็ดเสร็จ, จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าในภูมิภาคต่างๆ ทั่วโลก, พัฒนาช่องทางการส่งออกสินค้าไทยไปต่างประเทศ 3.เร่งรัดขยายตลาดใหม่และรักษาตลาดเดิม โดยมุ่งเพิ่มสัดส่วนการส่งออกไปตลาดใหม่เป็น 55% ในปีหน้า จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนอยู่ที่ 53%

4.ส่งเสริมการส่งออกสินค้าและบริการเชิงสร้างสรรค์ของไทย(Creative Economy for Export) โดยพัฒนารูปแบบและคุณภาพสินค้าและบรรจุภัณฑ์ สนับสนุนการสร้างแบรนด์สินค้าและบริการของไทย สนับสนุนด้านนวัตกรรม วิจัยและพัฒนาสินค้า ตลอดจนส่งเสริมผู้ประกอบการไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ และ 5.ให้ความสำคัญกับการเป็นประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน(AEC) โดยการใช้ประโยชน์ที่ได้จากการเปิดเสรีการค้าและการลงทุนระหว่างกันในอาเซียน เชื่อมโยงวัตถุดิบและแรงงานกับประเทศในอาเซียนและร่วมกันส่งออกไปยังประเทศที่สาม

นายราเชนทร์ กล่าวว่า ปัจจัยที่ยังคงต้องจับตาต่อการส่งออกในปีหน้า คือ ราคาน้ำมันในตลาดโลก, เงินบาทที่ต้องไม่แข็งค่ามากเกินไป, มาตรการกีดกันทางการค้าของประเทศต่างๆ รวมถึงสถานการณ์ทางการเมืองภายในประเทศของไทยเอง แต่ทั้งนี้เชื่อว่าเมื่อมีการวางกลยุทธ์การส่งออกที่ชัดเจนและเป็นไปอย่างถูกทิศทางแล้ว ก็น่าจะส่งเสริมการส่งออกของไทยให้เป็นไปได้ด้วยดี

"หากเราเห็นตลาดที่ชัดเจน มีกลยุทธ์ที่ถูกต้อง ก็น่าจะทำให้เราสนับสนุนการส่งออกของภาคเอกชนไปยังตลาดต่างประเทศได้เป็นอย่างดี และเชื่อว่าการส่งออกในปี 53 จะกลับเข้าสุ่ภาวะปกติแล้ว" อธิบดีกรมส่งเสริมการส่งออก ระบุ

ส่วนแนวโน้มการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้ นายราเชนทร์ เชื่อว่า การส่งออกจะปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เนื่องจากมีสัญญาณที่ชัดเจนมาตั้งแต่เดือนเม.ย.52 ว่าการส่งออกเมื่อเทียบเดือนต่อเดือนจะมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นประมาณ 5% และมูลค่าการส่งออกในช่วงที่เหลือของปีนี้แต่ละเดือน(ส.ค.-ธ.ค.52) คาดว่าจะอยู่ในระดับใกล้เคียงกับ 13,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งน่าจะส่งผลให้ทั้งปี 52 การส่งออกของไทยจะติดลบราว 15% คิดเป็นมูลค่าประมาณ 151,165 ล้านดอลลาร์

โดยมาตรการเร่งด่วนเพื่อกระตุ้นการส่งออกปี 52 ประกอบด้วย มาตรการด้านตัวสินค้า, มาตรการด้านราคา ต้นทุนสินค้า และสภาพคล่องทางการเงิน, มารตรการด้านการตลาด, มาตรการด้านการสื่อสารและสร้างภาพลักษณ์ให้กับสินค้าไทย และมาตรการเสริมตามข้อเสนอของผู้ส่งออกที่มีปัญหาเรื่องขาดออร์เดอร์ชั่วคราว

ขณะที่กลยุทธ์ที่ใช้พัฒนาและส่งเสริมการส่งออกในปี 52 เพื่อรองรับวิกฤติเศรษฐกิจโลก คือ การผลักดันการส่งออกสินค้าเกษตรและสินค้าอาหารอย่างเต็มที่, เร่งส่งเสริมการส่งออกเป็นกรณีพิเศษในตลาดที่ได้รับผลกระทบไม่มากจากวิกฤติเศรษฐกิจโลก, เร่งส่งเสริมธุรกิจบริการอย่างเข้มข้น เพื่อสนับสนุนการส่งออกทั้งทางตรงและทางอ้อมให้เพิ่มมากขึ้น, สนับสนุนการลดต้นทุนสินค้าในระบบเทรด โลจิสติกท์ และส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยไปดำเนินธุรกิจในต่างประเทศ



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ