นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.)ระบุว่า ภาคเอกชนพร้อมสนับสนุนกระทรวงอุตสาหกรรมออกประกาศกฎกระทรวงเรื่องการพิจารณาอนุญาตโครงการหรือกิจกรรมเกี่ยวกับอุตสาหกรรมที่อาจก่อผลกระทบต่อชุมชนอย่างรุนแรงด้านสิ่งแวดล้อม ทรัพยากร และสุขภาพ ซึ่งคาดว่าจะสามารถดำเนินการได้ภายใน 1-2 วันนี้
เนื่องจากภาคเอกชนต้องการความชัดเจน เพราะในเขตนิคมอุตสาหกรรมมาบตาพุดมีโครงการที่รอลงทุนประมาณ 300,000 ล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมี, โรงกลั่น, เหล็ก และอุตสาหกรรมที่รอลงทุนในเขตนอกนิคมอุตสาหกรรมอีก 50,000 ล้านบาท
นายพยุงศักดิ์ กล่าวว่า การออกประกาศดังกล่าวมีความสำคัญเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการลงทุนในอุตสาหกรรมต่อเนื่องและป้องกันการเสียโอกาสในการลงทุน ส่วนการประเมินผลกระทบด้านสุขภาพ(HIA)นั้น ส.อ.ท.อาจจะนไปรวบรวมไว้ในการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อม(EIA) ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงอุตสาหกรรม และกระทรวงสาธารณสุขเห็นพ้องกันแล้วที่จะทำ HIA รวมไว้ใน EIA ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี
สำหรับภาพรวมอุตสาหกรรมเหล็กในขณะนี้มีแนวโน้มการปรับตัวดีขึ้นตามอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เริ่มฟื้นตัว ขณะที่ความต้องการเหล็กโดยเฉพาะเหล็กในอุตสาหกรรมก่อสร้างนั้นยังไม่ชัดเจน แต่ความต้องการเหล็กเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมยานยนต์ เช่น ชิ้นส่วนยานยนต์และอื่นๆ เพิ่มขึ้นประมาณ 30-40%