คาร์ล บี ไวน์เบิร์ก นักเศรษฐศาสตร์นานาชาติ กล่าวว่า ระบบการเงินญี่ปุ่นอาจพบหายนะภายใต้การบริหารงานของพรรคดีพีเจ ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งสภาผู้แทนราษฎรและอยู่ในระหว่างการเตรียมจัดตั้งครม.ชุดใหม่ เนื่องจากนโยบายด้านภาษีและการคลังของพรรคดีพีเจอาจทำให้อัตราดอกเบี้ยกู้ยืมและผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะยาวปรับตัวสูงขึ้น
"พรรคดีพีเจมีนโยบายทุ่มเงินใช้จ่ายและลดภาษีซึ่งอาจทำให้ระบบการเงินของญี่ปุ่นขาดเสถียรภาพ" ไวน์เบิร์ก จากบริษัท ไฮ ฟรีเควนซี อีโคโนมิกส์ ในนิวยอร์ก กล่าว
ความเห็นของไวน์เบิร์กแสดงให้เห็นว่า นักวิเคราะห์เอกชนจำนวนมากยังกังขาว่าพรรคดีพีเจโดยการนำของนายยูคิโอะ ฮาโตยามะ จะสามารถลดการออกพันธบัตรรัฐบาลตามที่เคยให้คำมั่นไว้ได้หรือไม่ นอกจากนั้นนักวิเคราะห์ยังวิตกเกี่ยวกับแผนการใช้จ่ายของรัฐบาลชุดใหม่ ที่ให้คำมั่นว่าจะทุ่มงบประมาณให้กับการดูแลสุขภาพเด็ก การศึกษา และการจ้างงาน เป็นมูลค่าสูงสุดถึง 5 ล้านล้านเยน (5.4 หมื่นล้านดอลลาร์)
"หากระบบการเงินญี่ปุ่นเกิดหายนะก็จะถือเป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงสุดที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกในช่วงชีวิตนี้ และจะยิ่งทำให้วิกฤตเศรษฐกิจโลกในปัจจุบันย่ำแย่ลงไปอีก" ไวน์เบิร์ก กล่าว
อย่างไรก็ตาม แทบไม่มีสัญญาณว่านักลงทุนในตลาดพันธบัตรวิตกเกี่ยวกับชัยชนะของพรรคดีพีเจ โดยผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 10 ปี อยู่ที่ระดับ 1.355% ในวันนี้ เทียบกับ 1.31% ก่อนการเลือกตั้งในญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 30 สิงหาคมที่ผ่านมา สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงาน