โตเกียว โชโกะ รีเสิร์ช บริษัทวิจัยสินเชื่อภาคเอกชนของญี่ปุ่นเปิดเผยว่า จำนวนบริษัทที่ประสบภาวะล้มละลายในญี่ปุ่นเดือนส.ค.ปรับตัวลดลง 1.0% จากระดับปีที่แล้วแตะ 1,241 ราย ซึ่งเป็นตัวเลขที่ลดลงครั้งแรกในรอบ 3 เดือน เพราะได้รับปัจจัยหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล
โดยตัวเลขหนี้สินของบริษัทที่ล้มละลายร่วงลงไป 67.3% แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปีครึ่งที่ 2.842 แสนล้านเยน ซึ่งทำสถิติลดลงเป็นเดือนที่ 5 เนื่องจากบริษัทขนาดใหญ่ที่ประสบภาวะล้มละลายนั้นมีจำนวนน้อยลง
ทั้งนี้ ภาคอุตสาหกรรมก่อสร้างมีบริษัทที่ล้มละลายลดลง 17.1% หลังรัฐบาลประกาศแผนรับประกันเงินกู้ฉุกเฉินในกลุ่มบริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดเล็กและโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานภายใต้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราการล้มละลายของบริษัทภาคการผลิตยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 12 ที่ระดับ 21.3%
ในบรรดาภาคอุตสาหกรรม 10 แห่งที่ทำการสำรวจพบว่า ภาคอุตสาหกรรมที่มีบริษัทล้มละลายเพิ่มขึ้น ประกอบกับ ภาคธุรกิจค้าปลีก ภาคการผลิต อสังหาริมทรัพย์ บริการ การเงินและประกันภัย เกษตรกรรม ป่าไม้ ประมง และเหมืองแร่ ส่วนภาคที่มีจำนวนบริษัทล้มละลายลดลง ได้แก่ ภาคการขนส่ง ก่อสร้าง ค้าส่ง และสื่อสารโทรคมนาคม
นอกจากนี้ บริษัทล้มละลายที่มีหนี้สินตั้งแต่ 1 หมื่นล้านเยนขึ้นไปมีจำนวนลดลง 75.0% ส่วนบริษัทล้มละลายที่มีหนี้สินไม่ถึง 100 ล้านเยนขยายตัวขึ้น 10.2% ซึ่งข้อมูลดังกล่าวบ่งชี้ถึงสถานการณ์ของบริษัทขนาดเล็กที่ยังเลวร้ายเมื่อเทียบกับบริษัทขนาดใหญ่
นอกจากนี้ ผลสำรวจอีกฉบับที่จัดทำโดยบริษัทเทโกกุ ดาต้าแบงก์ ระบุว่า อัตราการล้มละลายของบริษัทเอกชนที่มีหนี้สิน 10 ล้านเยนขึ้นไปมีจำนวนรวมอยู่ที่ 1,042 ราย เพิ่มขึ้น 2.4% จากปีก่อนหน้านี้ ขณะที่ตัวเลขหนี้สินโดยรวมของบริษัทที่ล้มละลายลดลง 66.2% คิดเป็นมูลค่า 2.753 แสนล้านเยน สำนักข่าวเกียวโดรายงาน