นายอลงกรณ์ พลบุตร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้เศรษฐกิจโลกกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นหลังจากปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจโลกจนทำให้หลายประเทศใช้แผนกระตุ้นเศรษฐกิจมูลค่ามหาศาล เพื่อให้ไทยสามารถครองส่วนแบ่งตลาดโดยเฉพาะในสหภาพยุโรปที่มีประเทศสมาชิกรวมกลุ่มประเทศเอฟต้า(European Free Trade Association)จำนวน 31 ประเทศ ถือเป็นตลาดขนาดใหญ่
กระทรวงพาณิชย์จึงร่วมมือกับภาคเอกชนประกอบด้วยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน(กกร.), สภาธุรกิจไทย-สหภาพยุโรป และสถานทูตของประเทศต่างๆ จัดการประชุม Thai-European Forum ภายใต้หัวข้อ "Deepening and Widening Bussiness Relations" โดยมีประเด็นหารือย่อยประกอบด้วย ความปลอดภัยของอาหารต่อผู้บริโภค(Food safety), การบริหารจัดการด้านขนส่ง พลังงานทดแทน, กฎระเบียบของยุโรป, การขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุนระหว่างไทย-ยุโรป และการให้คำปรึกษาด้านการค้าระหว่างไทยและประเทศในแถบยุโรป (Export Clinic)
"การจัดงานครั้งนี้นายกรัฐมนตรี จะให้เกียรติเปิดงาน แสดงถึงการให้ความสำคัญการค้ากับสหภาพยุโรปและกลุ่มประเทศเอฟต้าที่เป็นคู่ค้าใหญ่อันดับ 2 ของไทย แม้ 7 เดือนที่ผ่านมาการส่งออกไปยังตลาดนี้จะลดลงถึง 30% แต่ทิศทางเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัวเป็นปัจจัยสำคัญที่ต้องเชื่อความสัมพันธ์ 2 ฝ่ายให้แน่นแฟ้นขึ้น และไทยจะแสดงศักยภาพการเป็นเกตเวย์ของยุโรปสู่อาเซียน" นายอลงกรณ์ กล่าว
นายปณิธาน ปวโรฬารวิทยา รองประธานสภาธุรกิจไทย-สหภาพยุโรป กล่าวว่า ทิศทางการค้าของสหภาพยุโรปจะยังเป็นตลาดที่มีกฎระเบียบทางการค้าสูงและทิศทางนี้จะยังคงมีต่อไป โดยจะเน้นทั้งเรื่องความปลอดภัย คุณภาพสินค้า และการมีจริยธรรมในการผลิต ซึ่งผู้ประกอบการไม่ควรรอให้เศรษฐกิจฟื้นตัวจึงเข้าไปทำตลาดอีกแต่ต้องเน้นการผลิตเพื่อตอบสนองความต้องการตลาดอย่างต่อเนื่อง เพราะสหภาพยุโรปเป็นตลาดที่มีมูลค่าด้านการค้าสูงแม้ในความเป็นจริงจะมีปริมาณความต้องการไม่สูงมากก็ตาม
นอกจากนี้ในการสัมนาจะมีนักธุรกิจจากฝ่ายสหภาพยุโรปมาร่วมงานจำนวนมากจะเป็นโอกาสให้ทำธุรกิจร่วมกันรวมถึงการแก้ปัญหาทางการค้าร่วมกันอย่างใกล้ชิดมากขึ้น
ส่วนโอกาสที่ไทยจะเป็นเกตเวย์ของยุโรปนั้น ยอมรับว่าในการเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี(FTA) ระหว่างไทยและสหภาพยุโรปที่ทั้งสองฝ่ายอยู่ในขั้นการตัดสินใจว่าจะเปิดการเจรจาหรือไม่นั้น จะเป็นหนทางเพิ่มการค้าสองฝ่ายให้มากขึ้นแต่ต้องดำเนินการอย่างระมัดระวังเนื่องจากอียูมีมาตรฐานทางการค้าสูง การที่ไทยจะเปิดเจรจาใดต้องแน่ใจว่าไทยสามารถปฎิบัติตามมาตรการดังกล่าวได้ข้อตกลงนั้นๆจึงจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง