สำนักงานสถิติแห่งชาติออสเตรเลียรายงานในวันนี้ว่า ยอดค้าปลีกประจำเดือนก.ค.ของออสเตรเลียลดลง 1% ซึ่งเป็นสถิติที่ลดลงเป็นเดือนที่ 2 และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้น 0.5%
แอนเนท บีชเชอร์ นักวิเคราะห์จาก TD Securities กล่าวว่า ยอดค้าปลีกที่ปรับตัวลงเหนือความคาดหมายอาจทำให้นายเกลน สตีเฟนส์ ผู้ว่าการธนาคารกลางออสเตรเลีย ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ โดยนายสตีเฟนส์กล่าวว่าเขาจับตาดูยอดค้าปลีกภายในประเทศมาโดยตลอด เพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ว่ามาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจวงเงิน 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐจะส่งผลให้ผู้บริโภคใช้จ่ายเพิ่มขึ้นหรือไม่
"ยอดค้าปลีกที่ร่วงลงสะท้อนให้เห็นว่าภาคครัวเรือนเริ่มชะลอการใช้จ่าย โดยยอดขายสินค้าในครัวเรือนลดลง 3.6% และยอดขายอาหารดิ่งลง 1.9% ทั้งนี้ คาดว่ายอดค้าปลีกออสเตรเลียจะปรับตัวลดลงอีกเนื่องจากผลกระทบในด้านบวกของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเริ่มลดน้อยลง" บีชเชอร์กล่าว
ยอดค้าปลีกเดือนก.ค.ที่ร่วงลงเหนือความคาดหมายของออสเตรเลียรายงานที่ว่าดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของออสเตรเลียประจำเดือนส.ค.พุ่งขึ้น 8 จุด สู่ระดับ 18 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 6 ปี ขณะที่นักวิเคราะห์บางคนมองว่าข้อมูลดังกล่าวอาจกดดันธนาคารกลางออสเตรเลียให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยกู้ยืมให้สูงขึ้นจากระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี บลูมเบิร์กรายงาน