Eurekahedge ซึ่งเป็นบริษัทที่ให้คำปรึกษาด้านกฎหมายแก่บริษัทและสถาบันการเงินทั่วโลก รายงานว่า กลุ่มเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกมีกำไรเพิ่มขึ้น 1.1% ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นสถิติที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นเดือนที่ 6 เนื่องจากการเข้าลงทุนตลาดหุ้นยุโรป โดยเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิของกลุ่มเฮดจ์ฟันด์มีอยู่ทั้งสิ้น 4.5 พันล้านดอลลาร์ในเดือนส.ค. ขณะที่ดัชนี Eurekahedge Hedge Fund Index เพิ่มขึ้น 13% ในปีนี้
มาซาฮารุ อิโตะ นักวิเคราะห์จาก Daiwa Institute of Research กล่าวว่า เฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกกำลังเก็บเกี่ยวกำไรจากตลาดหุ้นที่ดีดตัวขึ้น หลังจากมีสัญญาณบ่งชี้ว่าเศรษฐกิจโลกฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรงแล้ว นอกจากนี้ กลุ่มเฮดจ์ฟันด์ยังเข้าลงทุนในสินทรัพย์ที่ประสบปัญหาในการดำเนินงาน (distressed asset) ซึ่งเป็นการลงทุนทางเลือกใหม่ที่น่าสนใจ
เคอร์บี ดาลีย์ นักวิเคราะห์จากบริษัท Newedge Group ซึ่งเป็นบริษัทโบรกเกอร์ชั้นนำในฮ่องกง กล่าวว่า กลุ่มเฮดจ์ฟันด์กลับเข้ามาซื้อขายในตลาดหุ้นอีกครั้งหลังจากขาดทุนหนักสุดเป็นประวัติการณ์ในปีที่แล้ว เนื่องจากตลาดหุ้นฟื้นตัวขึ้นหลังจากหลายประเทศใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพื่อพยุงเศรษฐกิจโลกให้ฟื้นตัวขึ้นจากภาวะถดถอยรุนแรง โดยดัชนี MSCI World Index พุ่งขึ้น 8.4% ในเดือนก.ค.
Eurekahedge ระบุว่า เมื่อปีที่แล้วเฮดจ์ฟันด์ทั่วโลกขาดทุนอย่างหนักเนื่องจากเศรษฐกิจในทวีปเอเชีย ยุโรป และสหรัฐอเมริกาเข้าสู่ภาวะถดถอย นอกจากนี้ เฮดจ์ฟันด์ยังขาดทุนอย่างหนักเนื่องจากรัฐบาลของหลายประเทศมีคำสั่งห้ามทำชอร์ตเซลล์ หลังจากตลาดการเงินทั่วโลกผันผวนอย่างหนัก ซึ่งสถานการณ์ดังกล่าวส่งผลกระทบต่อรายได้ของเฮดจ์ ฟันด์ด้วย ส่วนในปีนี้ภาวะการซื้อขายในตลาดหุ้นทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้น หลังจากรัฐบาลทั่วโลกใช้มาตรการฟื้นฟูเศรษฐกิจ บลูมเบิร์กรายงาน