อัลโค อิงค์ บริษัทผู้ผลิตอลูมิเนียมรายใหญ่สุดของสหรัฐได้ยกระดับการคาดการณ์การใช้งานโลหะที่สูงขึ้นทั่วโลก เนื่องจากดีมานด์ที่สูงขึ้นในจีน รวมทั้งเจนเนอรัล มอเตอร์ส (GM) ที่ระบุว่า ยอดขายในจีนอาจจะสูงถึง 12 ล้านคัน จนจีนสามารถแซงหน้าสหรัฐขึ้นเป็นตลาดอันดับ 1 ของโลก ซึ่งความเคลื่อนไหวของทั้ง 2 บริษัทนี้ถือเป็นหลักฐานที่บ่งชี้ว่า เศรษฐกิจมีแนวโน้มที่จะขยายตัวมากยิ่งขึ้น แม้ว่าอัตราการขยายตัวของการปล่อยเงินกู้จะลดลงจนทำให้ตลาดหุ้นจีนอ่อนตัวลง
ดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้ได้เข้าสู่ภาวะตลาดหมั หรืออ่อนตัวลงมาแล้วอย่างน้อย 20% เนื่องจากความกังวลเรื่องการปล่อยเงินกู้ล็อตใหม่ที่ลดลงเมื่อเดือนก.ค.ว่า อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้การผลิตและการลงทุนชะลอตัวลง แต่ตัวเลขเดือนส.ค.ก็อาจจะช่วยบรรเทาความวิตกกังวลต่างๆ ขณะที่ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมก็ปรับตัวสูงสุดในรอบ 1 ปี และยอดขายปลีกก็ขยายตัวที่ระดับ 15% ต่อปี
บลูมเบิร์กรายงานว่า ทิม คอนดอน หัวหน้าฝ่ายวิจัยด้านเอเชียของไอเอ็นจี กรุ๊ป และอดีตนักเศรษฐศาสตร์ของธนาคารโลก กล่าวว่า การควบคุมด้านสินเชื่อคงจะไม่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในทางลบ
ดัชนีหุ้นเซี่ยงไฮ้ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องมาเป็นวันที่ 6 แล้วเมื่อวานนี้ ซึ่งช่วยสกัดช่วงขาลงหลังจากที่ดัชนีปิดที่ระดับต่ำเป็นประวัติการณ์เมื่อวันที่ 4 ส.ค.ที่ผ่านมา
ผลการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ของบลูมเบิร์กคาดว่า การปล่อยกู้ที่คึกคักเมื่อต้นปีน่าจะเพียงพอแล้วที่จะคงระดับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนต่อไปได้ ส่วนผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) อาจจะขยายตัว 9.5% ในปีหน้า หลังจากที่ขยายตัว 8.3% ในปีนี้ ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่ต่ำลงมากที่สุดในรอบ 8 ปี
ลู เจิงเหว่ย นักเศรษฐศาสตร์ของอินดัสเทรียล แบงค์ กล่าวว่า การฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกิดขึ้นในทิศทางที่ถูกต้อง จากการปล่อยเงินกู้จำนวนมหาศาล การลงทุนเพื่อการกระตุ้นเศรษฐกิจคงจะไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใดแม้ว่าอัตราการปล่อยเงินกู้จะลดลงในช่วงระยะเวลาที่เหลือในปีนี้