นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ กรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้าน(กพบ.) ที่มีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน เห็นชอบการเตรียมการประชุมเวทีขับเคลื่อนการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจ(Economic Corridor Forum:ECF) ภายใต้แผนงาน GMS ครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 16-17 ก.ย.นี้ ที่กรุงพนมเปญ
"จะมีการหารือใน 2 ระดับ คือ ทั้งระดับรัฐมนตรี และระดับผู้ว่าราชการจังหวัดตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจ ในส่วนของการดำเนินงานที่ต้องเร่งรัดต่อไป คือ การผลักดันความตกลงขนส่งข้ามพรมแดนให้สามารถดำเนินการได้ตามกำหนดในปี 2553 ระบบศุลกากรผ่านแดน และการพัฒนาความร่วมมือด้านการลงทุนของอนุภูมิภาค" นายพุทธพงษ์ กล่าว
ทั้งนี้ เรื่องที่ฝ่ายไทยเตรียมหยิบยกขึ้นหารือในที่ประชุมดังกล่าว ประกอบด้วย ประเด็นปัญหาและข้อจำกัดที่สำคัญในการพัฒนา, แนวทางความร่วมมือที่ไทยควรผลักดัน, ข้อเสนอสาขาความร่วมมือที่มีศักยภาพ, กลไกการดำเนินงาน, การอำนวยความสะดวกการค้าและการขนส่งข้ามพรมแดน, การพัฒนาแนวพื้นที่พัฒนาเศรษฐกิจต่างๆ และข้อเสนออื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาศักยภาพของประเทศใน GMS พร้อมทั้งเห็นชอบแนวทางในการดำเนินงานต่อไป และมอบหมายให้ สศช. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการประชุมเวทีขับเคลื่อนการพัฒนาแนวพื้นที่เศรษฐกิจภายใต้แผนงาน GMS
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ เห็นว่าควรเร่งรัดโครงการให้เป็นรูปธรรม และทบทวนยุทธศาสตร์เพิ่มเติม ได้แก่ การพิจารณาความเหมาะสมของการพัฒนาท่าเรือฝั่งอันดามัน และการเชื่อมโยงกับท่าเรือทวายของสหภาพพม่า, การพัฒนาเขตเศรษฐกิจชายแดนด้านตะวันตก และความสอดคล้องของการพัฒนาเส้นทางตามแนวพื้นที่เศรษฐกิจ กับแผนงานโครงการที่ปรากฏอยู่ในแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง 2555, การเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นรูปธรรม และการพัฒนาท่าอากาศยานในภูมิภาคเพื่อรองรับการท่องเที่ยว เช่น หลวงพระบาง น่าน กาญจนบุรี เป็นต้น และการจัดการบริหารพื้นที่พิเศษตามแนวชายแดน โดยเฉพาะ อ.แม่สอด และแม่ละมาด จ.ตาก ซึ่งมีศักยภาพในการพัฒนาเชื่อมโยงกับเมืองของพม่า และอาจจะจำเป็นต้องปรับการบริหารในระดับท้องถิ่น
สำหรับความตกลงการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง และข้อเสนอเบื้องต้นของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย(ADB) เรื่องการปรับโครงสร้างกลไกการดำเนินงานการอำนวยความสะดวกทางการค้าและการขนส่งข้ามพรมแดนของไทย ที่ประชุมฯ เห็นชอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดดำเนินการในส่วนที่รับผิดชอบ และเห็นชอบต่อข้อเสนอของ สศช.เรื่องการเร่งรัดให้มีการลงนาม Addendum ไทย-กัมพูชา เพื่อการเปิดสิทธิจราจรระหว่างไทย-กัมพูชา ณ ด่านอรัญประเทศ-ปอยเปต ภายในต้นปี 53 เข้าไปผลักดันในการประชุม กรอ.อีกทางหนึ่ง
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า ที่ประชุมฯ ยังมอบหมายให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดดำเนินการให้สัตยาบันภาคผนวกและพิธีสารแนบท้ายความตกลงฯ จำนวน 3 ฉบับ ก่อนการประชุมระดับรัฐมนตรี 6 ประเทศลุ่มแม่น้ำโขง ครั้งที่ 16 ซึ่งคาดว่าเวียดนามจะเป็นเจ้าภาพในเดือน มี.ค.53 ได้แก่ ข้อบังคับการจราจรและสัญญาณหลักเกณฑ์เรื่องการอนุญาตผู้ประกอบการขนส่งสำหรับการประกอบการขนส่งข้ามพรมแดน และพิธีสารฉบับที่ 3 โควตาการบริการขนส่งและการออกใบอนุญาต
ส่วนที่ไทยจะต้องออกกฎหมาย 5 ฉบับเพื่อให้สามารถไปให้สัตยาบันในความตกลงขนส่งข้ามพรมแดนฯ ในส่วนที่เหลือนั้น ที่ประชุมฯ มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมและกระทรวงการคลังเร่งรัดดำเนินการ ซึ่งจะทำให้การขนส่งสินค้าและนักท่องเที่ยวมีความสะดวกมากยิ่งขึ้น