ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ก.ย.) โดยดอลลาร์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 1 ปีเมื่อเทียบยูโร หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุว่าเศรษฐกิจสหรัฐเริ่มมีเสถีรภาพ จึงทำให้นักลงทุนเทขายดอลลาร์และเข้าถือครองสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า นอกจากนี้ การฟื้นตัวของตลาดหุ้นยุโรปและสหรัฐยังเป็นอีกปัจจัยที่ทำให้นักลงทุนลดการถือครองสกุลเงินดอลลาร์และเข้าเทรดในตลาดหุ้น
บลูมเบิร์กรายงานว่า ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.44% เมื่อเทียบกับยูโรที่ 1.4545 ยูโร/ดอลลาร์ จากระดับของวันอังคารที่ 1.4482 ยูโร/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.19% เมื่อเทียบกับเงินเยนที่ 92.150 เยน/ดอลลาร์ จากระดับ 92.330 เยน/ดอลลาร์
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลง 0.47% เมื่อเทียบกับฟรังค์สวิสที่ 1.0419 ฟรังค์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0468 ฟรังค์/ดอลลาร์ และดิ่งลง 0.29% เมื่อเทียบกับปอนด์ที่ 1.6534 ปอนด์/ดอลลาร์ จากระดับ 1.6487 ปอนด์/ดอลลาร์
ส่วนค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียขยับขึ้น 0.03% แตะที่ 0.8616 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จากระดับ 0.8613 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย และค่าเงินดอลลาร์นิวซีแลนด์อ่อนตัวลง 0.06% แตะที่ 0.6953 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จากระดับ 0.6957 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
ซูซูมุ คาโตะ หัวหน้านักวิเคราะห์ด้านปริวรรตเงินตราจาก คาลิยง ซิเคียวริตี้ส์ กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงอย่างหนักหลังจากรายงานของเฟดระบุว่า เศรษฐกิจในภูมิภาคส่วนใหญ่ของสหรัฐมีเสถียรภาพ ขณะที่ตัวเลขการใช้จ่ายผู้บริโภคก็ฟื้นตัวขึ้นด้วย ซึ่งเป็นผลมาจากโครงการนำรถยนต์คันเก่าแลกคันใหม่ ของรัฐบาลสหรัฐ
"ภาวะการลงทุนแบบ "เลือกที่จะเสี่ยง" เริ่มกลับเข้ามาในตลาด โดยนักลงทุนเข้าซื้อสกุลเงินยูโรอย่างหนาแน่น ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นเพราะธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) มีแนวโน้มที่จะขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนธนาคารกลางสหรัฐ" คาโตะกล่าว
นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐร่วงลงหลังจากรัฐมนตรีคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางของกลุ่มประเทศ G20 มีมติสนับสนุนรัฐบาลทั่วโลกให้เพิ่มมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งความเคลื่อนไหวดังกล่าวทำให้นักลงทุนมีมุมมองที่เป็นบวกต่อเศรษฐกิจ และปลีกตัวออกจากการถือครองสกุลเงินดอลลาร์หลังจากที่เคยมองว่าเป็นการลงทุนที่ปลอดภัย
ยูบีเอส เอจี เทรดเดอร์ด้านปริวรรตเงินตรารายใหญ่อันดับ 2 ของโลก ได้ปรับลดคาดการณ์สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆของโลก รวมถึงเงินยูโรและปอนด์ เนื่องจากนักลงทุนส่วนใหญ่ต้องการซื้อสกุลเงินที่ให้อัตราผลตอบแทนสูงกว่า รวมทั้งให้ความสนใจเข้าเทรดในตลาดหุ้นมากกว่า
ทั้งนี้ ยูบีเอสคาดว่าดอลลาร์จะอ่อนตัวลงสู่ระดับ 1.45 ดอลลาร์/ยูโรในระยะเวลา 30 วันนี้ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 1.40 ดอลลาร์ และจะลดลงสู่ระดับ 1.63 ดอลลาร์/ปอนด์ เมื่อเทียบกับที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้าที่ 1.57 ดอลลาร์/ปอนด์
นักลงทุนจับตาดูข้อมูลเศรษฐกิจที่สหรัฐจะเปิดเผยในสัปดาห์นี้ โดยวันพฤหัสบดีจะมีการเปิดเผยรายงานจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และข้อมูลการค้าระหว่างประเทศเดือนก.ค. ส่วนวันศุกร์จะมีการเปิดเผยราคานำเข้าและส่งออกเดือนส.ค., ดัชนีความเชื่อมั่นขั้นต้นเดือนก.ย. และรายงานตัวเลขงบประมาณของรัฐบาลกลางประจำเดือนส.ค.