อิกนาซิโอ บาร์รอน ผู้อำนวยการฝ่ายรถไฟความเร็วสูงของสหภาพรถไฟสากล (UIC) กล่าวว่า จีนกำลังจะกลายเป็นผู้นำของโลกด้านรถไฟความเร็วสูงหลังจากที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วตลอดหลายปีที่ผ่านมา
"ผมลองขึ้นรถไฟความเร็วสูงจากปักกิ่งไปยังเทียนจินแล้ว มันเร็วและสะดวกสบายมาก" นายบาร์รอนกล่าวระหว่างร่วมการประชุมรถไฟความเร็วสูงซึ่งจัดขึ้นในประเทศจีน
จีนวางแผนสร้างทางรถไฟความเร็วสูง 42 สายความยาวรวม 13,000 กิโลเมตรในระยะเวลา 3 ปีต่อจากนี้ ซึ่งนายบาร์รอนชื่นชมกับการพัฒนาที่รวดเร็วเช่นนี้มาก พร้อมแนะนำว่าหากต้องการเพิ่มความสามารถในการรองรับผู้โดยสารให้มากขึ้น ทางจีนต้องพัฒนาเครือข่ายรถไฟความเร็วสูง ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมที่สุด
สำหรับปัญหาทางเทคนิค เขาแนะนำให้จีนสานสัมพันธ์กับประเทศที่มีเทคโนโลยีสูงกว่าตั้งแต่เริ่มต้น อย่างไรก็ตาม เขาแสดงความเชื่อมั่นว่าจีนจะสามารถพัฒนาเทคโนโลยีของตนเองได้ในอีกไม่นาน
ปัจจุบันทั่วโลกมีรางรถไฟความเร็วสูงความยาวรวมกันประมาณ 10,700 กิโลเมตร โดยในญี่ปุ่นมีความยาว 2,000 กิโลเมตร ส่วนในฝรั่งเศสยาว 1,900 กิโลเมตร
การประชุมรถไฟความเร็วสูงจัดขึ้นโดย Steer Davies Gleave บริษัทที่ปรึกษาด้านอุตสาหกรรมการคมนาคมขนส่งชั้นนำของยุโรป และมีตัวแทนจากบริษัทดำเนินกิจการรถไฟฟ้าความเร็วสูงจากทั้งฝรั่งเศส ญี่ปุ่น เยอรมนี สเปน และอิตาลี เข้าร่วมเสนอแผนการพัฒนาในอนาคต
ทั้งนี้ UIC กล่าวว่ารถไฟความเร็วสูงต้องมีความเร็วอย่างน้อย 200 กิโลเมตร/ชั่วโมง สำหรับรถไฟความเร็วสูงมีการใช้ครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ.2507 สำนักข่าวซินหัวรายงาน