ธนาคารกลางจีนเปิดเผยว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่ในเดือนส.ค.ปรับตัวสูงขึ้นมาอยู่ที่ 4.10 แสนล้านหยวน หรือ 6.0 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ จากระดับเดือนก.ค.ที่ 3.55 แสนล้านหยวน แต่ก็ถือว่าร่วงลงอย่างมากจากระดับเดือนมิ.ย.ที่ 1.53 ล้านล้านหยวน ส่วนปริมาณเงิน M2 นั้น เพิ่มขึ้น 28.53%
ตัวเลขการปล่อยเงินกู้ที่มีการเปิดเผยวันนี้อาจจะกลายเป็นสถานการณ์ที่ลำบากสำหรับเจ้าหน้าที่จีนที่ต้องการจะรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจ โดยไม่จุดกระแสเงินเฟ้อจากราคาสินทรัพย์ ประกอบซู หนิง รองประธานแบงค์ออฟไชน่าก็ออกมาเตือนเรื่องอันตรายจากภาวะฟองสบู่ในตลาดหุ้นและอสังหาริมทพรัย์ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเหวิน เจียเป่าของจีนก็ออกมาให้คำมั่นว่า จะยังคงใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อไป เพื่อสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจประเทศ
เชอร์แมน ชาน นักเศรษฐศาสตร์ของ Moody’s Economy.com กล่าวว่า การขยายขอบเขตการปล่อนสินเชื่ออาจจะช่วยผลักดันการขยายตัว แต่เราก็ไม่อยากให้เศรษฐกิจขยายตัวร้อนแรงเกินไปจนทำให้เกิดภาวะฟองสบู่
ทั้งนี้ ผลการสำรวจความคิดเห็นของนักเศรษฐศาสตร์ที่บลูมเบิร์กได้สำรวจความคิดเห็นคาดว่า ยอดการปล่อยเงินกู้ครั้งใหม่ของจีนจะอยู่ที่ 3.20 แสนล้านหยวน
รายงานตัวเลขวันนี้อาจจะผลักดันให้นักลงทุนที่เคยทำให้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตร่วงลงถึง 23% เมื่อเดือนที่แล้วนั้น เริ่มวิตกกังวลเรื่องสินเชื่อที่ชะลอตัวลงอาจจะทำให้ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมและการใช้จ่ายหดตัวลงตามไปด้วย
นายกฯจีนกล่าวเมื่อวานนี้ในการประชุมซัมเมอร์ดาวอสว่า รัฐบาลจีนจะยังคงใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนปรนระดับกลาง และการใช้งบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเต็มที่ต่อไป ในขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังดีดตัวขึ้น