ยอดขายโครงการอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ของสหรัฐในปีนี้อาจร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปี เนื่องจากตลาดเผชิญกับภาวะตกต่ำหนักสุดนับตั้งแต่เกิดวิกฤตการณ์ในตลาดสินเชื่อเมื่อช่วงต้นปี 1990
บลูมเบิร์กรายงานอ้างข้อมูลจาก Real Capital Analytics Inc. บริษัทวิจัยในนิวยอร์กซึ่งระบุว่า การทำธุรกรรมซื้อขายสำนักงานในสิ้นปีนี้จะอยู่ที่ประมาณ 1.6 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ
แดน ฟาซุโล กรรมการผู้จัดการของ Real Capital แสดงความเห็นว่า "ขณะนี้เรายังไม่เห็นหนทางที่ตลาดจะเคลื่อนไหวได้อย่างน่าพอใจ และนับตั้งแต่ที่ผมอยู่ในวงการนี้มาขอบอกเลยว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ตลาดซบเซามากที่สุด"
วิกฤตการเงินที่ส่งผลให้เลห์แมน บราเธอร์ส โฮลดิ้ง อิงค์ล้มละลาย และมีการซื้อกิจการเมอร์ริล ลินช์ แอนด์ โคนั้นได้ส่งผลกระทบต่อการปล่อยเงินกู้ภาคอสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ ขณะที่เจ้าของโครงการต้องเผชิญความเสี่ยงในการผิดนัดชำระหนี้มากขึ้น และอัตราการทำธุรกรมที่ลดลงน้อยลงยังเป็นอุปสรรคต่อทั้งผู้ซื้อและผู้ขายสินทรัพย์
ทั้งนี้ อัตราการผิดนัดชำระหนี้ของธนาคารพาณิชย์ในสหรัฐเพิ่มขึ้นกว่า 2 เท่าในไตรมาส 2 สู่ระดับ 2.88% และอาจพุ่งขึ้นไปแตะ 4.1% ในปลายปีนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2536 ซึ่งจะยิ่งสร้างความเสียหายต่อธนาคารที่ออกเงินกู้จำนอง อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงการฟื้นตัวที่ล่าช้าออกไปในส่วนของการลงทุนด้านตลาดอสังหาริมทรัพย์