ธปท. ค้านแก้นิยาม NPL กระตุ้นสินเชื่อ หวั่นเกิดความเสียหายต่อแบงก์เพิ่ม

ข่าวเศรษฐกิจ Friday September 11, 2009 16:14 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

นายเกริก วณิกกุล ผู้ช่วยผู้ว่าการสายนโยบายสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท.ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดการขยายระยะเวลาการนับหนี้ที่ค้างชำระที่จะเป็นหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL)ของระบบธนาคารพาณิชย์ออกไป เป็น 1 หรือ 2 ปี จากเกณฑ์ปัจจุบันที่กำหนดไว้ที่ 3 เดือน เพื่อเป็นการกระตุ้นการเข้าถึงสินเชื่อของเอกชน

เนื่องจาก หากมีความเสียหายมากขึ้น ธนาคารพาณิชย์ก็ต้องนำกำไรมาชดเชยความเสียหาย

"ผมเชื่อว่าอะไรที่ไม่ดีในบ้าน ก็ต้องปัดกวาดก่อน ซึ่งถ้าขยายคำจำกัดความของไม่ดี ก็ยังไม่ดีต่อไป ยิ่งเสียหายขึ้น แบงก์ก็ต้องเอากำไรไปอุดซึ่งมันเป็นค่าใช้จ่าย และยิ่งช้าก็สร้างความหมักหมมสิ่งไม่ดี" นายเกริกระบุ

นอกจากนั้น รายงานตัวเลข NPLในระบบธนาคารพาณิชย์ล่าสุด ไม่ได้เร่งตัวขึ้นอย่างน่าตกใจ เพราะธปท.ได้เปิดโอกาสให้ธนาคารพาณิชย์มีการปรับโครงสร้างลูกหนี้ก่อนเป็น NPL

นายเกริก กล่าวอีกว่า ปัจจุบัน ธปท.พยายามสร้างบรรยากาศ และกระบวนการให้เอื้อต่อการปล่อยสินเชื่อของธนาคารพาณิชย์ ทั้งการกำหนดเงินกองทุนต่อสินทรัพย์เสี่ยง (BIS) ขั้นต่ำที่ 8.5% การเสริมสภาพคล่องในระบบและการกำหนดให้มีหลักประกันสินเชื่อ แต่ไม่สามารถที่จะบังคับให้ธนาคารพาณิชย์ปล่อยสินเชื่อได้

อย่างไรก็ตาม พบว่าขณะนี้ธนาคารพาณิชย์เร่งขยายสินเชื่อมากขึ้น เพราะเป็นธุรกิจหลัก ซึ่งจะมีการผ่อนคลายความเข้มงวดหรือไม่ขึ้นอยู่กับการนโยบายของธนาคารพาณิชย์แต่ละแห่งเอง

ขณะเดียวกัน ธปท.รายงานยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตทั้งระบบเดือนก.ค.52 ว่า มีทั้งสิ้น 75,621 ล้านบาท ลดลงจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 2,431 ล้านบาท คิดเป็น 3.12% สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและการอุปโภคบริโภคเอกชนที่ยังคงชะลอตัวแม้มีทิศทางที่ดีขึ้นแต่ยังคงเปราะบาง

แบ่งการใช้จ่ายรวมในประเทศ อยู่ที่ 56,384 ล้านบาท ลดลง 1,159 ล้านบาท คิดเป็น 2.01% การใช้จ่ายต่างประเทศ มีจำนวน 3,016 ล้านบาท ลดลง229 ล้านบาท คิดเป็น 7.06% การเบิกเงินสดล่วงหน้า มีจำนวน 76,621 ล้านบาท ลดลง 2,431ล้านบาท คิดเป็น 3.12%

ส่วนยอดสินเชื่อคงค้างรวมผ่านบัตรเครดิต มีทั้งสิ้น 181,953 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อน 1.46% จากฐานบัญชีรวม 13,143,232 ใบ ที่เพิ่มขึ้น 5.32%

และสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับ เดือนก.ค.52 มียอดคงค้างทั้งสิ้น 219,604 ล้านบาท ลดลงช่วงเดียวกันของปีก่อน 4,142 ล้านบาท คิดเป็น1.85% โดยเป็นการลดลงของ สาขาต่างประเทศ 19,455 ล้านบาท ลดลง 2,356 ล้านบาท หรือ 10.80% สถาบันการเงินที่ไม่ใช่ธนาคารพาณิชย์ (นอนแบงก์) 97,849 ล้านบาท ลดลง 3,518 ล้านบาท หรือ 3.47% แต่สินเชื่อของธนาคารพาณิชย์เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 102,300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น1,732 ล้านบาท หรือ1.72%.



เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ