กระทรวงยุติธรรมสหรัฐขอให้ไมโครซอฟท์ คอร์ป และ ยาฮู อิงค์ ชี้แจงรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการจับมือเป็นพันธมิตรด้านเสิร์ชเอนจิ้นระหว่างสองบริษัท ซึ่งหมายความว่าทางคณะกรรมการกำกับดูแลจะไม่อนุมัติการทำข้อตกลงร่วมกันระหว่างสองบริษัทในทันที
แจ๊ค อีแวนส์ โฆษกของไมโครซอฟท์ กล่าวว่า ทางบริษัทคิดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องถูกตรวจสอบอย่างละเอียดหลังจากที่มีการประกาศความร่วมมือระหว่างกันเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา แม้ไมโครซอฟท์ปฏิเสธที่จะเปิดเผยว่าถูกตรวจสอบอะไรบ้าง แต่เชื่อว่าทั้งสองบริษัทน่าจะถูกถามเกี่ยวกับการลงทุนในเสิร์ชเอนจิ้น ค่าใช้จ่ายด้านโฆษณา และแผนการตลาดผลิตภัณฑ์
ไมเคิล แคตซ์ อดีตหัวหน้านักเศรษฐศาสตร์แผนกต่อต้านการผูกขาด กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ผลที่ออกมาจะเป็นตัวกำหนดทิศทางของตลาดโฆษณาบนเสิร์ชเอนจิ้น ซึ่งกูเกิลครองตลาดอยู่โดยมียอดขายโฆษณามากกว่าไมโครซอฟท์-ยาฮู รวมกันถึง 3 เท่า
ไมโครซอฟท์และยาฮูอาจประสบความยากลำบากในการพิสูจน์ให้ทางคณะกรรมการกำกับดูแลเห็นว่าการสร้างความร่วมมือครั้งนี้จะไม่ส่งผลต่อการแข่งขันในอุตสาหกรรมดังกล่าว
"หน่วยงานต่อต้านการผูกขาดอาจสงสัยว่าทำไมทั้งสองบริษัทต้องรวมตัวกันให้ใหญ่ขึ้นเพื่อให้มีความสามารถแข่งขันเพิ่มขึ้น และกระทรวงยุติธรรมก็จะเห็นด้วยว่าทำไมทั้งสองบริษัทไม่แข่งขันกับผู้อื่นเพื่อให้ตัวเองแข็งแกร่งขึ้น" แคตซ์ กล่าว
ทั้งนี้ ข้อตกลงจับมือเป็นพันธมิตรซึ่งทั้งสองบริษัทได้ลงนามเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาระบุว่า ยาฮูจะสามารถใช้เสิร์ชเอนจิ้น Bing ของไมโครซอฟท์บนเว็บไซต์ของตัวเองได้ และยาฮูสามารถลงโฆษณาข้างๆ ผลการเสิร์ชข้อมูลได้ โดยทั้งสองบริษัทจะแบ่งรายได้กัน บลูมเบิร์กรายงาน