ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐยังคงร่วงลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ก.ย.) เนื่องจากยังคงถูกเทขายอย่างต่อเนื่อง หลังมีสัญญาณว่าเศรษฐกิจโลกกำลังฟื้นตัว
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงแตะ 1.4582 ดอลลาร์/ยูโร จากระดับของวันพฤหัสบดีที่ 1.4577 ดอลลาร์/ยูโร และอ่อนค่าลงแตะ 90.640 เยน/ดอลลาร์ จาก 91.740 เยน/ดอลลาร์
นอกจากนั้นเงินดอลลาร์ยังอ่อนค่าแตะ 1.0369 ฟรังค์สวิส/ดอลลาร์ จากระดับ 1.0387 ฟรังค์/ดอลลาร์ และอ่อนค่าลงแตะ 1.6674 ดอลลาร์/ปอนด์ จาก 1.6650 ดอลลาร์/ปอนด์
ส่วนเงินดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะ 0.8626 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย จาก 0.8630 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ออสเตรเลีย ในขณะที่เงินดอลลาร์นิวซีแลนด์แข็งค่าแตะ 0.7055 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์ จาก 0.7030 ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์นิวซีแลนด์
นักวิเคราะห์กล่าวว่า การที่เศรษฐกิจโลกส่งสัญญาณฟื้นตัวจากภาวะถดถอยครั้งรุนแรงสุดนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้นักลงทุนมีความเชื่อมั่นมากขึ้นจนตัดสินใจเทขายเงินดอลลาร์และหันไปลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงกว่าอย่างหุ้น สกุลเงินตลาดเกิดใหม่ และสกุลเงินที่ผูกติดกับสินค้าโภคภัณฑ์
นอกจากนั้นผลสำรวจของรอยเตอร์/มหาวิทยาลัยมิชิแกน ยังเผยว่าดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนกันยายนอยู่ที่ระดับ 70.2 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน ถือเป็นอีกสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเศรษฐกิจกำลังฟื้นตัวแล้ว
"กระแสเทขายเงินดอลลาร์คงดำเนินต่อไปอีกสักระยะหนึ่ง" นักยุทธศาสตร์การเงินท่านหนึ่งกล่าว