นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายงาน เชื่อมั่นประเทศไทย กับนายกฯอภิสิทธิ์ ว่า ขณะนี้เศรษฐกิจของประเทศได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้ว โดยยืนยันได้จากตัวเลขเศรษฐกิจด้านต่างๆ มีแนวโน้มดีขึ้น โดยเฉพาะปัญหาการว่างงาน ที่จากเดิมในช่วงเกิดวิกฤติเศรษฐกิจเมื่อปลายปี 51 ที่เคยคาดการณ์ว่าจะมีคนว่างงานมากถึง 2 ล้านคน แต่ขณะนี้อัตราการว่างงานได้ลดลงเข้าสู่ระดับปกติที่มีคนว่างงาน 3-4 แสนคน ซึ่งอาจเป็นช่วงฤดูการโยกย้ายแรงงาน
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลยังคงเดินหน้าประคับประคองให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ต่อเนื่อง ทั้งผ่านการลงทุนตามแผนปฏิบัติการไทยเข้มแข็ง และการใช้เงินงบประมาณประจำปี 53 ที่วันพรุ่งนี้ จะมีการประชุมวุฒิสภาพิจารณาร่าง พ.ร.บ.วิธีการงบประมาณปี 53 ซึ่งหวังว่าสมาชิกวุฒิสภาจะให้ความเห็นชอบเพื่อให้รัฐบาลมีเครื่องมือในการใช้จ่ายทั้งด้านการลงทุนและอื่นๆ และเดินหน้าโครงการได้ตามแผน
" จึงขอความสนับสนุนให้วุฒิสภาผ่านงบประมาณปี 53 ซึ่งทำให้การใช้จ่ายรัฐบาลเป็นไปตามแผน ส่วนข้อสังเกตต่อกฎหมายงบประมาณ รัฐบาลพร้อมนำมาดำเนินการและเปิดโอกาสให้กรรมาธิการสองสภาตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณได้ เหมือนเปิดเว็บไซต์ไทยเข้มแข็งให้มีการตรวจสอบ" นายอภิสิทธิ์ กล่าว
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขณะนี้รัฐบาลกำลังดำเนินโครงการเพื่อต่อยอดเศรษฐกิจเชิงสร้างสรรค์ โดยได้มีการเปิดโครงการ Economy Creative และได้มีการประชุมร่วมกันแล้ว และจะเร่งผลักดันให้มีการวางยุทธศาสร์ และวางกลไกการดำเนินการเรื่องดังกล่าวแบบบูรณาการ เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนโครงการอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 6 เดือน นอกจากนี้ยังมีข่าวดีที่ไทยถูกจัดอันดับที่ 12 ของโลก ที่เป็นประเทศที่เอื้อต่อการทำธุรกิจ และรัฐบาลจะได้เดินหน้าผลักดันการเพิ่มจีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ ดึงดูดนักลงทุน โดยจะมีการผลักดันการเปิดศูนย์บริการนักลงทุนแบบครบวงจร ในปลายเดือน ต.ค.-พ.ย.52 นี้