วิลเลียม รินช์ ประธานสภาการค้าระหว่างประเทศของสหรัฐ องค์กรซึ่งเป็นตัวแทนกลุ่มบริษัทส่งออกยักษ์ใหญ่ในสหรัฐ รวมถึงบริษัท โบอิ้ง และไมโครซอฟท์ เปิดเผยว่า การที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามา ตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าพิเศษยางของจีน อาจเป็นการเปิดฉากสงครามการตั้งกำแพงการค้าระลอกใหม่
วิลเลียม รินช์กล่าวว่า อดีตประธานาธิบดีโรแนลด์ เรแกน, อดีตประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิ้ลยู บุช และอดีตประธานาธิบดีบิล คลินตัน ต่างก็พยายามปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศของตนเองตั้งแต่ช่วงต้นๆของการเข้ารับตำแหน่ง ซึ่งโอบามาก็ดำเนินการแบบเดียวกับคลินตัน คือพยายามสร้างความพอใจให้กับฝ่ายนิติบัญญัติของพรรคเดโมแครตและสหภาพแรงงานหลายแห่งที่ช่วยให้เขาได้รับชัยชนะในการเลือกตั้ง
"การตัดสินใจของโอบามาทำให้เขามีเครดิตมากขึ้นกับสภาคองเกรส แต่จะเป็นการเปิดฉากสงครามการตั้งกำแพงการค้า โดยใช้การขึ้นภาษีนำเข้าเป็นเครื่องมือ" รินช์กล่าว
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโอบามาตัดสินใจเรียกเก็บภาษีนำเข้าพิเศษในอัตรา 35 % สำหรับยางรถยนต์นั่งและรถบรรทุกขนาดเบาของจีนเป็นเวลา 1 ปี เพิ่มเติมจากภาษีนำเข้าปรกติในอัตรา 4 % โดยจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 26 ก.ย. ซึ่งการตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นหลังจากสหภาพแรงงานบริษัทผลิตยางรถยนต์ในสหรัฐ เรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐจำกัดปริมาณการนำเข้ายางรถยนต์จากจีน
การตัดสินใจครั้งล่าสุดของสหรัฐทำให้กระทรวงพาณิชย์ของจีนออกแถลงการณ์ผ่านเว็บไซท์ ด้วยการประณามสหรัฐอย่างรุนแรง ว่า มาตรการดังกล่าวไม่เพียงแต่ละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก แต่สวนทางกับคำมั่นสัญญาที่รัฐบาลสหรัฐให้ไว้ในการประชุมสุดยอดด้านการเงินของกลุ่ม G20 พร้อมกับประณาณว่าเป็นการกีดกันทางการค้าและอาจส่งผลกระทบต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก นอกจากนี้ รัฐบาลจีนตอบโต้สหรัฐด้วยการประกาศใช้มาตรการตรวจสอบการเรียกเก็บภาษีนำเข้าผลิตภัณฑ์เนื้อไก่และรถยนต์ของสหรัฐ บลูมเบิร์กรายงาน