บีโอไอไฟเขียวส่งเสริมการลงทุน 4 โครงการ มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท

ข่าวเศรษฐกิจ Monday September 14, 2009 17:00 —สำนักข่าวอินโฟเควสท์ (IQ)

รมว.อุตสาหกรรม เผยที่ประชุมคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) ซึ่งมีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน อนุมัติให้ 4 บริษัทลงทุนใน 4 โครงการขนาดใหญ่ มูลค่าเงินลงทุน 15,601 ล้านบาท

นายชาญชัย ชัยรุ่งเรือง รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยว่า บอร์ดบีโอไอได้พิจารณาอนุมัติให้การส่งเสริมการลงทุน 4 โครงการ มูลค่าเงินลงทุน 15,601 ล้านบาท ประกอบด้วย บมจ.การบินไทย(THAI)ขยายกิจการขนส่งทางอากาศ เงินลงทุน 8,142 ล้านบาท เป็นการเช่าเครื่องบิน Airbus A 330-343 ขนาด 299 ที่นั่ง จำนวน 2 ลำ จากประเทศฝรั่งเศส เป็นการให้บริการต่างๆ ได้แก่ การขนส่งผู้โดยสาร บริการขนส่งสินค้าพัสดุภัณฑ์ และไปรษณียภัณฑ์ ทั้งแบบประจำเส้นทางและแบบเช่าเหมาลำในเส้นทางภายในและระหว่างประเทศ

บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ขยายกิจการผลิตเตาไมโครเวฟ เครื่องล้างจาน เครื่องซักผ้า ตู้เย็น เครื่องปรับอากาศ ตั้งอยู่ที่สวนอุตสาหกรรมศรีราชา จ.ชลบุรี มูลค่าเงินลงทุน 3,709 ล้านบาท เป็นการผลิตเตาไมโครเวฟปีละประมาณ 2.4 ล้านเครื่อง เครื่องล้างจานปีละประมาณ 1.2 แสนเครื่อง เครื่องซักผ้าปีละประมาณ 2 ล้านเครื่อง ตู้เย็นปีละประมาณ 1.5 เครื่อง และเครื่องปรับอากาศทั้งแบบติดตั้งภายในและภายนอกอาคาร รวมปีละประมาณ 2 ล้านเครื่อง

การลงทุนดังกล่าวของไทยซัมซุงฯ เป็นการลงทุนเพิ่ม หลังจากบริษัทได้รับการส่งเสริมการลงทุนในไทยแล้ว 7 โครงการ ครอบคลุม 6 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ทีวีสี ตู้เย็น เครื่องซักผ้า จอคอมพิวเตอร์ เตาไมโครเวฟ เครื่องปรับอากาศ และบริษัทยังมีแผนจะขยายการลงทุนในประเทศไทยอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ได้ตั้งฐานการผลิตในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 32

บริษัท แคททาเลอร์(ประเทศไทย) จำกัด ขยายกิจการผลิตไส้กรองไอเสียสำหรับยานพาหนะ(CATALYST) กำลังการผลิตปีละประมาณ 4,752,000 ชิ้น มูลค่าเงินลงทุน 950 ล้านบาท ตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด จ.ระยอง โดยจะเป็นโครงการผลิตไส้กรองไอเสียสำหรับรถยนต์รุ่นใหม่รองรับรถยนต์รุ่นใหม่ให้กับกลุ่มบริษัท โตโยต้า มอเตอร์

และ บมจ.สหวิริยา เพลทมิล ขยายกิจการผลิตเหล็กแผ่นหนา(Steel Plate) กำลังการผลิตปีละประมาณ 1,152,000 ตัน ตั้งอยู่ที่ จ.ฉะเชิงเทรา มูลค่าลงทุน 2,800 ล้านบาท ซึ่งการผลิตดังกล่าวนอกจากเพื่อรองรับความต้องการในประเทศแล้ว ยังจะรองรับความต้องการเหล็กแผ่นหนาของตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ด้วย


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ