นางอรรชกา สีบุญเรือง บริมเบิล เลขาธิการ คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน(บีโอไอ) เปิดเผยว่า ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมประเมินว่าสถานการณ์เศรษฐกิจที่เริ่มคลี่คลายไปด้วยดีจะส่งผลให้ผู้ประกอบการมีการใช้กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นจากช่วงต้นปี 52 โดยผู้ประกอบการเกือบทุกกลุ่มอุตสาหกรรมคาดว่าครึ่งหลังปีนี้ภาคอุตสาหกรรมจะมีอัตราการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่เฉลี่ย 64.3% เป็นระดับเดียวกับปี 51 และเป็นระดับที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งหลังของปี 50 ที่มีการใช้กำลังการผลิตอยู่ที่ระดับเฉลี่ย 61.5%
สำหรับผลสำรวจภาวะการจ้างงาน การผลิต และการจำหน่าย ของบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนในช่วง ก.ค.52 ซึ่งเป็นการรวบรวมข้อมูลจากบริษัทที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุนจากบีโอไอที่มีมูลค่าเงินลงทุนของทุกโครงการรวมกันตั้งแต่ 500 ล้านบาทขึ้นไป และได้รับส่งเสริมการลงทุนในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาจำนวน 371 บริษัท พบว่าผู้ประกอบการ 155 ราย หรือ 42% จะมีการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในส่วนของอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ โดยช่วง ก.ค.มีการจ้างพนักงานชั่วคราวเพิ่มขึ้นแล้วถึง 62%
ขณะที่มีผู้ประกอบการ 47% หรือประมาณ 173 รายจะคงระดับการจ้างงานไว้ในระดับเดิมจากช่วงต้นปี 52 ที่ผู้ประกอบการส่วนใหญ่ได้ปรับลดพนักงานลงไปมากแล้ว ประกอบกับ ตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/52 เริ่มมีคำสั่งซื้อจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการถึง 94 บริษัทจะขยายการลงทุนเพิ่มเติมในประเทศภายในปี 52 คิดเป็นมูลค่าเงินลงทุนรวม 113,920 ล้านบาท กระจายในเกือบทุกอุตสาหกรรม โดยกลุ่มที่มีแผนขยายการลงทุนสูงสุด ได้แก่ กลุ่มอุตสาหกรรมเคมี กระดาษ พลาสติก มูลค่าเงินลงทุนกว่า 43,702 ล้านบาท อุตสาหกรรมบริการและสาธารณูปโภค มูลค่า 21,839 ล้านบาท อุตสาหกรรมไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ มูลค่า 19,104 ล้านบาท และอุตสาหกรรม เกษตรกรรม ผลิตผลเกษตร มูลค่าเงินลงทุน 14,709 ล้านบาท
ส่วนบริษัทที่เหลือกว่า 200 ราย มีทั้งกลุ่มที่ยังไม่มีแผนจะขยายการลงทุนในช่วงครึ่งหลังปี 52 และยังไม่แน่ใจหรืออยู่ระหว่างรอดูสถานการณ์เศรษฐกิจโลกก่อน