สหภาพยุโรป (อียู) ชี้เศรษฐกิจของยุโรปอาจกลับมาขยายตัวอีกครั้งในไตรมาส 3 หรือไตรมาสปัจจุบัน หลังจากที่รัฐบาลหลายประเทศใช้งบประมาณนับแสนล้านยูโรในการผลักดันภูมิภาคให้หลุดพ้นจากภาวะถดถอยที่รุนแรงที่สุดในรอบกว่า 60 ปี
คณะกรรมาธิการยุโรประบุในรายงานคาดการณ์เศรษฐกิจซึ่งมีการเผยแพร่ในวันนี้ว่า เศรษฐกิจของอียูและยูโรโซน หรือกลุ่มประเทศที่ใช้เงินสกุลยูโร อาจขยายตัว 0.2% ในไตรมาส 3 และ 0.1% ในไตรมาส 4 หลังจากที่หดตัว 0.1% ในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา และคาดว่าตลอดทั้งปี 2552 เศรษฐกิจจะหดตัว 4% ซึ่งไม่เปลี่ยนแปลงจากการคาดการณ์เมื่อเดือนพ.ค. เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจในช่วงปลายปี 2551 และต้นปี 2552 ย่ำแย่กว่าที่คาดการณ์ไว้ในเบื้องต้น
โจอาควิน อัลมูเนีย คณะกรรมาธิการฝ่ายกิจการเศรษฐกิจและการเงินของอียู กล่าวว่า สถานการณ์ดีขึ้น ซึ่งมีสาเหตุหลักมาจากการที่ธนาคารกลางและรัฐบาลต่างๆได้อัดฉีดเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจมากอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ดังนั้นจึงต้องใช้มาตรการสนับสนุนการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องทั้งช่วงเวลาที่เหลือในปีนี้และในปีหน้า
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการยุโรประบุว่า เศรษฐกิจที่อ่อนแอจะยังคงส่งผลต่อตลาดแรงงานและภาคการเงินสาธารณะ พร้อมกับเตือนว่า แม้การฟื้นตัวจะเกิดขึ้นเร็วเหนือความคาดหมาย แต่ยังต้องรอดูต่อไปว่าการฟื้นตัวนี้จะยั่งยืนหรือไม่
ทั้งนี้ คณะกรรมาธิการฯคาดการณ์ว่า เศรษฐกิจเยอรมนีซึ่งมีขนาดใหญ่ที่สุดในยุโรปอาจจะขยายตัว 0.7% ในไตรมาส 3 และ 0.1% ในไตรมาส 4 และคาดว่า เศรษฐกิจฝรั่งเศสอาจขยายตัว 0.4% ในไตรมาส 3 หลังจากที่เยอรมนีและฝรั่งเศสเป็น 2 ชาติมหาอำนาจทางเศรษฐกิจของยุโรปที่สามารถกลับมาขยายตัวได้อย่างเหนือความคาดหมายในช่วงเดือนเม.ย.-มิ.ย.ที่ผ่านมา ที่ระดับ 0.3%
คณะกรรมาธิการฯยังได้ประเมินด้วยว่า อิตาลีก็อาจจะหลุดพ้นจากภาวะถดถอยในไตรมาสนี้ แต่เศรษฐกิจสเปนน่าจะยังคงหดตัวตลอดปีนี้
สำหรับเศรษฐกิจอังกฤษ ซึ่งไม่ได้อยู่ในยูโรโซน อาจกลับมาขยายตัวได้ในไตรมาส 3 เช่นกัน และคาดว่าจะขยายตัวถึง 0.5% ในไตรมาส 4
เมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ธนาคารกลางยุโรป (อีซีบี) ได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจในยูโรโซนเป็น 0.2% ในปี 2553 จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัว 0.3% ส่วนเศรษฐกิจปี 2552 นั้น อีซีบีประเมินว่าจะหดตัวประมาณ 4.1% ซึ่งดีกว่าการคาดการณ์เมื่อ 3 เดือนก่อนหน้านี้ว่าจะหดตัว 4.6%